พลังงานอุตสาหกรรม - นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันที่ 15 ส.ค.2557 ที่จะถึงนี้ กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอแผนพีดีพีฉบับใหม่ (พีดีพี 2015), การแยกท่อก๊าซธรรมชาติออกจาก บมจ.ปตท.(PTT) และ เรื่อง ปตท.ขายหุ้นโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เข้าที่ประชุม กพช.

โดยแผนรายละเอียดแผนพีดีพี 2015 จะมีการปรับปรุงสัดส่วนเชื้อเพลิงให้มีความเหมาะสม เพราะขณะนี้ไทยพึ่งพาก๊าซฯ ในการผลิตไฟฟ้าสูงมาก รวมทั้งแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไทยยังต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ พร้อมกับเตรียมเดินสายทำความเข้าใจกับประชาชนทุกภาคส่วนตลอดระยะเวลา 3 เดือน

สำหรับกรณีการประมูลโรงไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ (IPP) จำนวน 5,000 เมกะวัตต์ ของ บริษัท อินดิเพนเดนท์ พาวเวอร์ ดีเวลอปเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และ บริษัท มิตซุย แอนด์ คัมปะนี (ไทยแลนด์) เป็นผู้ชนะประมูลเพียงรายเดียวตั้งแต่ปี 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังมีผู้ร้องเรียนมายังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เป็นผู้เข้ามาพิจารณาเรื่องดังกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยความคืบหน้าการปรับโครงสร้างราคาพลังงานว่า ขณะนี้ คสช.อยู่ระหว่างการพิจารณาโครงสร้างราคาพลังงานแต่ละชนิด ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเร็วๆ นี้ เบื้องต้นคาดว่าราคาน้ำมันมีโอกาสปรับลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันเบนซิน 95 ที่ปัจจุบันราคาขายปลีกอยู่ที่ 48.75 บาท/ลิตร โดยภายหลังจากปรับโครงสร้างราคาพลังงานจะมีการปรับลดอัตราจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและลดภาษีสรรพสามิตลง คาดว่าราคาน้ำมันเบนซิน 95 มีโอกาสลดลง 3 บาทต่อลิตร

ส่วนราคาน้ำมันดีเซลคาดว่าจะคงเดิม เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลง จนสามารถเก็บเงินภาษีสรรพสามิตดีเซลได้ ส่วน LPG ทั้งภาคขนส่งและครัวเรือน และ NGV มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยยังคงรอความชัดเจนจาก คสช.เนื่องจากราคา LPG และ NGV นั้น พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.เป็นผู้พิจารณา