พลังงานอุตสาหกรรม - นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ภาพรวมต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของไทยตั้งแต่ต้นปี 2558 จะมีอัตราที่ลดลง และส่งผลดีต่อประชาชน เนื่องจาก กฟผ. จะรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ตามโครงการหงสา ที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง มีกำลังผลิตรวม 1,800 เมกะวัตต์ และตามสัญญาจะส่งขายให้ไทย ในจำนวน 1,600 เมกะวัตต์ และในช่วงปี 2562 จะมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำเข้ามาเพิ่มเติมอีก อาทิ โครงการเซเปียน-เซน้ำน้อย โครงการไซรบุรี โครงการน้ำเงี๋ยบ

อย่างไรก็ตาม แม้ กฟผ. จะมีสัดส่วนปริมาณสำรองไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แต่ระยะยาวด้านความมั่นคงไฟฟ้าในประเทศเป็นเรื่องที่จำเป็น ซึ่ง กฟผ. ยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน และล่าสุด กระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ในระยะเวลา 20 ปีระหว่างปี 2558-2578 และเตรียมเสนอต่อ คณะกรรมนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงประเภทเดียวอย่างก๊าซธรรมชาติในปัจจุบันมีความเสี่ยง และการพึ่งพาไฟฟ้าจากต่างประเทศจะไม่มีความมั่นคง ดังนั้น จำเป็นต้องหันไปพึ่งพาพลังงานถ่านหินที่มีปริมาณสำรองสูง และราคาถูกซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคง และลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าได้