ENERGY

"ทีเบ็ค" ร่วม "ปาล์มดีศรีนคร" ทุ่ม 230 ล้านบาท ผุดโรงไฟฟ้าชีวภาพ
POSTED ON 24/07/2557


พลังงานอุตสาหกรรม - ทีเบ็ค ผู้นำด้านการผลิตก๊าซชีวภาพของไทย ได้ลงนามในสัญญา BOOT กับ บริษัท ปาล์มดีศรีนคร จำกัด จังหวัดนครศรีธรรมราช ในโครงการผลิตไฟฟ้า 4.2 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP)

 

นายกุสตาฟ โกลเดนไฮล์ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ไบโอแก๊ส เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด กล่าวว่า “ด้วยคุณภาพและขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัย จึงได้มาซึ่งก๊าซชีวภาพ พลังงานที่สะอาดและปลอดภัยที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า สำหรับโครงการนี้สามารถมั่นใจได้ว่า น้ำเสียจะได้รับการบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพ มันจะช่วยลดมลพิษทางอากาศเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยรอบ และยังช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้เทียบเท่ากับการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของรถยนต์ประมาณ 20,000 คันต่อปี โครงการนี้เป็นโครงการก๊าซชีวภาพแบบสัมปทานแห่งที่ 4 ในพื้นที่ภาคใต้ของเรา ซึ่งวัดรวมกำลังการผลิตของทุกโครงการดังกล่าวก็จะมีกำลังการผลิตถึง 13 MW ในระยะเวลาอันใกล้นี้ เราคงได้ร่วมยินดีกับการปรับปรุงแก้ไขขั้นตอนและประสิทธิภาพในกระบวนการออกใบอนุญาตต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศไทย เพื่อเป็นแรงสนับสนุนบรรยากาศในการลงทุนยิ่งขึ้น เรามีความตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการเช่นนี้อีกหลายโครงการในแถบภาคใต้ของประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้”

 

ด้าน นายปัญญา เลาหวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาล์มดี ศรีนคร จำกัด กล่าวว่า “สำหรับปาล์มดีศรีนครเอง สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมจากผลิตผลทางการเกษตร ก็คือ ความสามารถในการจัดการและบำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย หากเราละเลยที่จะทำจัดการกับเรื่องนี้แล้ว อาจส่งผลกระทบจนถึงทำให้โรงงานปิดตัวลงได้ ดังนั้นเราจัดการปัญหานี้โดยเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำเสียและก๊าซชีวภาพมาเป็นผู้จัดการแทน”

 

โครงการนี้ทีเบ็คได้วางเงินลงทุนทั้งสิ้น 230 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้าง และการดำเนินงาน โดยใช้เทคโนโลยี Cover Lagoon Bio Reactor (CLBR) ซึ่งเป็นบ่อขนาดใหญ่ สามารถรองรับน้ำน้ำเสียได้ถึง 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มจากทะลายปาล์มสด 100 ตันต่อชั่วโมง คาดว่าจะสามารถขายไฟฟ้าได้ในปี พ.ศ.2558 โดยจะไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมดมาจากทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในเขตพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงแหล่งพัฒนาพื้นที่ร่วมไทย-มาเลเซีย(เจดีเอ) เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน – 13 กรกฎาคม และผลกระทบจากการเกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งโรงไบโอแก๊สแห่งนี้จะเป็น โรงที่ 10 ของทีแบ็ค นับตั้งแต่เปิดดำเนินมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546