ENERGY

เรกูเลเตอร์ เผย ร่วมมือลดใช้ไฟฟ้าภาคใต้ยังไม่ได้ตามเป้า
POSTED ON 01/07/2557


พลังงานอุตสาหกรรม - นางพัลลภา เรืองรอง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือ เรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า การใช้มาตรการ “ดีมานด์เรสปอนส์” มาตรการลดการใช้ไฟฟ้าภาคสมัครใจในช่วงที่ปิดซ่อมท่อก๊าซธรรมชาติแหล่งพื้นที่ร่วมพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) ที่ผ่านมานั้น พบว่าการลดใช้ไฟฟ้าได้ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยลดได้เพียงแค่ 39 เมกะวัตต์ จากผู้สมัครร่วมโครงการทั้งสิ้น 222 ราย

 

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการให้เงินตอบแทน 4 บาทต่อหน่วย สำหรับผู้ที่ลดใช้ไฟฟ้าได้นั้น ยังไม่สร้างแรงจูงใจเพียงพอ ประกอบกับช่วงนี้โรงงานภาคใต้มีคำสั่งซื้อสินค้า (ออเดอร์) เข้ามา โดยเฉพาะโรงงานยางพาราและโรงงานผลิตเบียร์ ทำให้การลดใช้ไฟฟ้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายขั้นต่ำที่ 50 เมกะวัตต์ แต่เรกูเลเตอร์ยังเปิดรับผู้เข้าร่วมโครงการในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ช่วยกันลดใช้ไฟฟ้าในช่วงนี้ให้ได้ปริมาณมากขึ้น โดยขณะนี้มีผู้สมัครเพิ่มขึ้นรวมเป็น 240 รายแล้ว

 

ทั้งนี้ เรกูเลเตอร์จะเตรียมนำมาตรการดีมานส์เรสปอนส์มาใช้เป็นมาตรการฉุกเฉินถาวรเฉพาะช่วงเกิดวิกฤติไฟฟ้าในไทย โดยจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป โดยมีเป้าหมายลดใช้ไฟฟ้าไว้ถึง 2,000 เมกะวัตต์ แต่ต้องเพิ่มแรงจูงใจให้มากขึ้น โดยให้เงินตอบแทนจาก 4 บาทต่อหน่วย เป็น 10-12 บาทต่อหน่วย ตามแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับที่จะต้องเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับฉุกเฉิน ซึ่งคิดเป็นค่าเสียหายถึง 81 บาทต่อหน่วย หรือต้องใช้เงินทั้งหมด 20,000 ล้านบาท และทำให้ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เพิ่มขึ้นเพียง 1.30 สตางค์ต่อหน่วย เป็นเวลา 10 ปี