พลังงานอุตสาหกรรม - นายสมนึก บำรุงสาลี อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า หลังจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้มีการปรับราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซที่ 24.83 บาท ขณะนี้ประชาชนได้ใช้สิทธิ์ร่วมเข้าโครงการบรรเทาผลกระทบจากผู้มีรายได้น้อยในการซื้อก๊าซราคาเดิมมีจำนวนมากขึ้น  เนื่องจากส่วนต่างของราคาก๊าซปรับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ที่ผ่านมานั้นประชาชนทั่วไปได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ประมาณกว่า 80,000 ราย ส่วนร้านค้าหาบเร่แผงลอยอาหารเข้ามาใช้สิทธิ์กว่า 2 แสนราย จากผู้มีสิทธิ์ทั่วประเทศ 7.5 ล้านราย“ นายสมนึก กล่าว

ส่วนกรณีที่ร้านค้ารายย่อยได้ร้องเรียนว่าประสบปัญหาการถูกหักภาษีและการจ่ายเงินสำรองล่าช้าจากผู้ค้ามาตรา 7 นั้น ทางกรมธุรกิจพลังงาน และพลังงานจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อย เช่น ผู้ค้ามาตรา 7 จ่ายเงินสำรองชดเชยส่วนต่างราคาก๊าซเรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่า เงินในบัญชีของร้านค้าก๊าซรายย่อยไม่แสดงในบัญชี

ด้าน นายชิษณุพงษ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) กล่าวว่า ได้หารือกับผู้ค้ามาตรา 7 ให้เร่งรัดจ่ายเงินสำรองชดเชยให้กับร้านค้าก๊าซรายย่อยให้ทั่วถึง ซึ่งทางสมาคมเร่งแก้ไขการจ่ายเงินล่าช้ามาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว โดยพบว่าจะเกิดขึ้นกับร้านค้าก๊าซรายย่อยที่เป็นร้านเล็กร้านน้อย หรือร้านค้าก๊าซที่เข้าร่วมโครงการในระยะแรก ที่เริ่มทำสัญญาจ่ายเงินสำรองกับผู้ค้ามาตรา 7 จึงอาจมีความล่าช้าเกิดขึ้น