ECONOMICS

พิษการเมืองทำเอสเอ็มอีวิกฤตหนัก ยอดขายยวบ เงินหมุนแย่
POSTED ON 21/02/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากการสุ่มสำรวจข้อมูลจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั่วประเทศ 500 ราย พบว่า ในเดือน ก.พ.2557 นี้ มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบทางการเมืองรุนแรงสูงถึง 56% โดยเมื่อเปรียบเทียบจากผลสำรวจเดือน ม.ค.2557 พบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบรุนแรง 38%

 

“จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการขนาดกลางรายหนึ่งพบว่ายอดขายลดลงไปถึง 30% และผู้ประกอบการเครื่องดื่มบางรายลดลงประมาณ 20-30% ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองยอดขายลดลงจากปลายปี 2556 ถึง 40% โดยในส่วนของตลาดนัดสวนจตุจักรในเดือน ม.ค.2557 ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปถึง 98% นักท่องเที่ยวชาวไทยหายไป 63% และมีร้านค้าปิดตัวลง 32% ทั้งนี้สาเหตุที่สำคัญมาจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ผู้ซื้อจากต่างชาติหายไปมาก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบรุนแรง แต่ สสว.ก็ยังไม่ปรับเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอสเอ็มอี เนื่องจากในปี 2557 นี้ พึ่งผ่านมาเพียง 1 เดือนครึ่ง ซึ่งจะต้องรอดูสถานการณ์อีกซักระยะ” นายปฏิมา กล่าว

 

ทั้งนี้ สสว. ได้ประสานกับ 5 ธนาคาร คือ ธนาคาร กรุงไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ออกมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ 3 แนวทาง คือ มาตรการที่ 1 พักชำระหนี้เงินต้นจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย (6-12 เดือน) มาตรการที่ 2 ขยายระเวลาชำระหนี้ (3-12 เดือน) และมาตรการที่ 3 ให้เงินกู้เพิ่มดอกเบี้ยพิเศษ (ผ่อนนาน) ซึ่งการติดต่อกับธนาคารจะมี บสย.ค้ำประกันให้ โดยมาตรการทั้งหมดคาดว่าจะช่วยเหลือเอสเอ็มอีทั่วประเทศได้ประมาณ 20,000 ราย โดยสามารถติดต่อโดยตรงกับ สสว. ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 1301