ECONOMICS

กรมสรรพสามิตเตรียมเบิก 2.5 หมื่นล้านบาทคืนรถคันแรก คาด 1.2 แสนรายทิ้งใบจอง
POSTED ON 19/02/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมฯ ได้เสนอขอเงินจากงบประมาณปี 2558 ที่อยู่ระหว่างการจัดทำอีก 2.5 หมื่นล้านบาท เพื่อจ่ายคืน ให้กับผู้ที่ใช้สิทธิ์รถคันแรก ซึ่งกรมได้ทยอยจ่ายคืนเงินผู้ใช้สิทธิ์รถคันแรกไปแล้วกว่า 8 แสนราย เป็นเงินกว่า 6 หมื่นล้านบาท จากผู้ที่ใช้สิทธิ์ทั้งหมด 1.2 ล้านราย เป็นยอดเงินที่ต้องจ่ายคืน 9 หมื่นล้านบาท

 

สำหรับการจ่ายคืนเงินให้กับผู้ใช้สิทธิ์ในปี 2558 คาดว่าจะเป็นปีสุดท้าย แม้เดิมมาตรการนี้ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขเวลารับรถภายในเมื่อไรก็ตาม เพราะตอนนี้มีผู้ที่ยังไม่มาใช้สิทธิ์รถคันแรก 1.2 แสนราย ทางกรมสรรพสามิตคาดว่าจะเป็นผู้สละสิทธิ์เกือบทั้งหมด จึงได้ประสานกับผู้ประกอบการรถยนต์ให้ดำเนินการเร่งรัดให้ผู้ซื้อรถมารับรถยนต์ภายในเวลาที่กำหนด หากไม่มาถือว่าสละสิทธิ์

 

ทั้งนี้ จากการหารือกับผู้ประกอบการรถยนต์เบื้องต้น พบว่า ผู้ประกอบการบางรายได้กำหนดเงื่อนไขไว้ในใบจองว่า ต้องมารับรถภายในกี่วันหลังจากที่ได้รับแจ้ง แต่บางรายไม่ได้กำหนดเงื่อนไขดังกล่าวไว้ เพราะการกำหนดให้มารับรถภายในกี่วันอาจเป็นการผิดสัญญาและถูกฟ้องร้องในภายหลังได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือเพื่อกำหนดเงื่อนไขการรับรถจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

 

อย่างไรก็ตาม การของบประมาณปี 2558 ได้รวมยอดของรถที่ไม่มาใช้สิทธิ์ 1.2 แสนรายไว้ด้วย หากผู้ที่ได้สิทธิกลุ่มนี้สละสิทธิ์ทั้งหมด ก็จะทำให้ประหยัดเงินงบประมาณราว 1 หมื่นล้านบาท

 

สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิ์โครงการรถคันแรก มีผู้ได้เงิน และถือครองรถยนต์ไม่ถึง 5 ปี ตามที่กำหนดไว้จำนวน 400-500 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ได้คืนเงินที่ได้รับไปให้กับกรมสรรพสามิต 4-5 รายเท่านั้น ที่เหลือกระทรวงการคลัง ต้องดำเนินการฟ้องเรียกเงินคืน

 

ส่วนการเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในรอบ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 ที่ผ่านมา มีแนวโน้มการเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายทุกเดือน ทำให้ยอดรวม ต่ำกว่าเป้า 5,000 ล้านบาท เนื่องจากการเก็บภาษีรถยนต์ได้ต่ำกว่าเป้าหมายจำนวนมาก ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการรถคันแรกทำให้มีการซื้อรถไปก่อนหน้าจำนวนมาก และอีกส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเศรษฐกิจทำให้กำลังซื้อน้อยลง

 

สำหรับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมทั้งปี 2557 มี 4.6 แสนล้านบาท หากตัดส่วนที่ไม่ได้เพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล กระทรวงการคลังได้ลดเป้าหมายให้กรมเหลือ 4.3 แสนล้านบาท ซึ่งหากปัญหาการเมืองจบได้เร็ว จะทำให้การเก็บรายได้ของกรมทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้