ECONOMICS

สบน. เผย ฟิตช์ และมูดี้ส์ ยังไม่เก็บข้อมูลในไทย หวั่นถูกลดเครดิต
POSTED ON 12/02/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง (สบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกอีก 2 แห่ง คือ บริษัท ฟิตช์ เรตติ้งส์ และ บริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ว่าจะมาเก็บข้อมูลด้านเศรษฐกิจในไทยเมื่อไหร่ จากปกติทั้ง 2 แห่งจะเข้ามาเก็บข้อมูลช่วงต้นปี และออกรายงานในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ของทุกปี ขณะที่ก่อนหน้านี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) เดินทางมาเก็บข้อมูลไทยช่วงเดือน ธ.ค.2556 และออกรายงานไปเมื่อเดือน ม.ค.2557 โดยคงสถานะเครดิตไทยไว้เท่าเดิม

 

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง (สบน.) เปิดเผยว่า รู้สึกกังวลว่าปัญหาการเมืองที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ประกอบกับกระทรวงการคลังถูกปิด อีกครั้งเป็นรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.2557 ที่ผ่านมา อาจส่งผลกระทบต่อการวิเคราะห์ข้อมูลในไทยของสถาบันจัดอันดับอีก 2 แห่งที่เหลือ เพราะการที่หน่วยงานราชการถูกปิดนั้นส่งผลให้ข้าราชการทำงานไม่เต็มที่ 100% ขณะนี้เริ่มส่งผล กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจบ้างแล้ว จากจำนวนนักท่องเที่ยว ที่ลดลง การจัดเก็บภาษีที่เริ่มลดลง

 

นอกจากนี้ การที่ไทยยังไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ครบทุกเขต ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในภาพรวม

 

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ขณะนี้คงประเมินลำบากว่าเครดิตลดหรือคง ซึ่งเดิมกระทรวงการคลังประเมินว่าฟิตซ์และมูดี้ส์จะเดินทางมาเก็บข้อมูลด้านเศรษฐกิจในช่วงหลังเลือกตั้ง แต่ในเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทยเป็นแบบนี้ยังไม่แน่ใจว่าทั้ง 2 แห่งจะมาเก็บข้อมูลในไทยหรือไม่ โดยอาจออกบทวิเคราะห์และประเมินอันดับความน่าเชื่อถือแบบไม่มาเก็บข้อมูลในไทยก็ได้ โดยใช้วิธีวิเคราะห์ข้อมูลแทนการสอบถามจากหน่วยงานเศรษฐกิจของไทย ตรงนี้น่าเป็นห่วงว่าอาจเสี่ยงที่จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ เพราะไทยจะไม่สามารถไปทำความเข้าใจในเรื่องที่เขาเป็นกังวลได้

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเครดิตเรตติ้งของไทยถูกคงในระดับเดิมมานับ 10 ปี แม้จะมีปัญหาการเมืองหรือน้ำท่วมใหญ่ แต่ในช่วงนี้ต้องถือว่าไม่ปกติ ที่มีการชุมนุมยาวนานต่อเนื่องหลายเดือน สถานที่ทางราชการถูกปิดนานนับเดือน ประกอบกับปัญหาการจำนำข้าว ที่สถาบันจัดอันดับหลายแห่งออกมาเตือนว่าสร้างภาระทางการคลังและกระทบ ต่อไทยในระยะยาว อาจส่งผลให้เครดิตไทยถูกปรับลดลงครั้งแรกในรอบหลายปี

 

"หากไทยถูกปรับลดเครดิตจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการระดมทุนด้วยการออกพันธบัตร และการกู้เงินจากต่างประเทศจะมีดอกเบี้ยที่สูงขึ้น" รายงานข่าวระบุ