ECONOMICS

เวิลด์แบงก์ เชื่อ แม้การเมืองแย่ แต่เศรษฐกิจโลกฟื้น ผลักจีดีพีไทยถึง 4%
POSTED ON 12/02/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2557 จะมีอัตราการขยายตัวได้ 4% แม้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบทางการเมือง อาจทำให้อุปสงค์ในประเทศชะลอลง แต่จะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.2% ทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวได้ 6% จากปีก่อนที่ติดลบ 0.4% ยืนยันว่าโอกาสที่ไทยจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้นต่ำมาก

 

อย่างไรก็ตาม การส่งออกมีแนวโน้มเติบโตได้ 6% อยู่ที่ 238,920 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การนำเข้าจะเติบโต 5% อยู่ที่ 229,994 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เกินดุลการค้า 8,927 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1,073 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 0.3% ของจีดีพี ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ 5% ขณะที่การบริโภคยังอ่อนแอ

 

ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นความท้าทายต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 ด้าน คือ (1) หนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง (2) ความล่าช้าในการดำเนินโครงการของภาครัฐ และ (3) ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่จะส่งผลกระทบต่อรายได้การท่องเที่ยวที่อาจจะลดลง รวมทั้งทำให้การดำเนินนโยบายของภาครัฐขาดความต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง

 

สำหรับระยะยาว เห็นว่าภาครัฐควรให้ความสำคัญในการกระจายการใช้จ่ายของภาครัฐให้ทั่วถึง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่อยู่ในระดับสูง โดยการมุ่งดำเนินนโยบายการใช้จ่ายของภาครัฐในภูมิภาค และปรับปรุงการกระจายรายได้ เพื่อลดการควบคุมจากหน่วยงานส่วนกลาง หรือควบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีขนาดเล็ก และเพิ่มความรับผิดชอบในระดับท้องถิ่นให้มากขึ้น

 

“ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยปีนี้ ขึ้นกับการบริโภคภาคครัวเรือนที่คาดว่าจะเติบโตแค่ 1.8% การลงทุนภาครัฐที่ล่าช้า คาดว่าจะขยายตัวเพียง 1% และการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวราว 10% แต่ขึ้นกับว่าการชุมนุมทางการเมืองจะยืดเยื้อแค่ไหน ถ้าการเมืองยืดเยื้อ คงจะส่งผลกระทบให้ปรับประมาณการอีกครั้ง" นางสาวกิริฎา กล่าว         

 

ด้าน นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การประเมินของเอกชนที่คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวไม่ได้เลย หรือขยายตัว 0% ขึ้นอยู่กับสมมุติฐานที่เอกชนมอง โดยเฉพาะปัญหาการเมืองที่อาจยืดเยื้อจนไม่มีรัฐบาลใหม่ไปถึงปลายปี จนทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบรุนแรงไม่ขยายตัวเลยก็มีความเป็นได้

 

อย่างไรก็ตาม สศค.เห็นว่าปัญหาการเมืองเป็นเรื่องที่ต้องประเมินกันวันต่อวัน สัปดาห์ต่อสัปดาห์ หรือเดือนต่อเดือน ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในระยะยาวว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่ง สศค.ยังมองว่าประเทศต้องมีรัฐบาลถาวร ไม่สามารถปล่อยให้ประเทศไม่มีรัฐบาลรักษาการไปถึงสิ้นปีนี้ได้ และเข้าใจว่าทุกฝ่ายพยายามหาทางออกจากปัญหานี้อยู่

 

"ยอมรับว่าหากไม่สามารถตั้งรัฐบาลใหม่ภายในกลางปีนี้ เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวไม่ถึง 3% ส่วนจะเป็นเท่าไร ต้องประเมินสถานการณ์ทางการเมืองเป็นรายวัน ไม่สามารถประเมินได้ขณะนี้" นายสมชัย กล่าว