เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การเลือกตั้งทั่วประเทศในวันนี้ ภาคเอกชนยังไม่ได้ประเมินสถานการณ์ที่ชัดเจน แต่เท่าที่ติดตามการเสนอข่าวมีทั้งประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิ์และไม่ไปใช้สิทธิ์ แต่หากเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ จะเห็นว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาแต่ละพรรคการเมืองแข่งขันกันด้านเสนอนโยบายบริหารประเทศซึ่งเกิดประโยชน์ต่อประเทศ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้กลับไม่เป็นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจอาจถดถอยจากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่ยังไม่มีท่าทีคลี่คลาย และช่วงรอยต่อในการรอรัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ ทำให้ขาดการขับเคลื่อนงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่ง เอกชน ปรารถนาจะเห็นสันติเกิดขึ้นในประเทศ ไม่อยากเห็นความรุนแรงเหมือนเช่น เหตุปะทะที่แยกหลักสี่ เพราะจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ประเทศที่ไม่ดี ในสายตาชาวต่างชาติ

ด้าน นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. มองว่า การเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 2 ก.พ.2557 ที่ผ่านมา ที่หลายพื้นที่ไม่สามารถเปิดหีบลงคะแนนเสียงได้ และอาจส่งผลให้กระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จะก่อให้เกิดสุญญากาศในการดำเนินงานและนโยบายต่างๆ จึงอาจมีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในการส่งออก เพราะขาดรัฐบาลมากระตุ้น การจับคู่ธุรกิจ โรดโชว์สินค้าต่างๆ และการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ การจัดเตรียมข้อมูลเพื่อเสนองบประมาณสำหรับปี 2558 ในช่วง 6 เดือน ก็อาจจะชะงักลงด้วยและจะมีผลกระทบต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจในปี 2558 ดังนี้ หน่วยงานภาครัฐ ข้าราชการ ควรทำงานให้มากขึ้น เร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ที่ผ่านการอนุมัติแล้ว โดยแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้น พรรคการเมืองควรจะร่วมกันจัดตั้งอนุกรรมการของพรรค เพื่อมาทำงานร่วมกันภาคเอกชนใน 5 กลุ่ม คือ ด้านการผลักดันการส่งออก ด้านการพัฒนาการลงทุน ด้านการกู้การท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยใหม่