เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า จากการติดตามสถานการณ์การส่งออกปัจจุบัน พบว่า ผู้ซื้อสินค้าของไทยหลายรายไม่เชื่อมั่นว่าไทยจะสามารถส่งสินค้าได้ตามกำหนดเวลา หรือยังมีความสามารถส่งสินค้าได้หรือไม่ เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองในไทย ผู้ซื้อทั้งเก่าและใหม่กำลังมองหาแหล่งนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นแทน

โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีการผลิตในหลายประเทศใกล้เคียงไทย เช่น สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม ซึ่งมีประเทศอินโดนีเซีย บังกลาเทศ กัมพูชา และเวียดนาม ที่สามารถผลิตสินค้าไทยเช่นเดียวกับไทย เครื่องใช้ไฟฟ้า มีมาเลเซียเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญอีกแห่ง ขณะที่กลุ่มรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนแหล่งนำเข้าสินค้า เช่นเดียวกับกลุ่มอาหารที่ยังไม่มีการลดคำสั่งซื้อ แต่มีการสอบถามถึงความเชื่อมั่นการส่งสินค้าตามกำหนด

“เมื่อไม่แน่ใจว่าไทยจะผลิตและส่งสินค้าให้ได้ตามที่ตกลงกันไว้ ก็เริ่มมีการย้ายคำสั่งซื้อไปให้ผู้ผลิตในประเทศอื่นๆ แทน เช่น กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ที่น่าตกใจคือ แม้แต่ลูกค้าเก่าซึ่งถือได้ว่าเป็นเพื่อนของไทย ก็เริ่มลังเลและโยกย้ายคำสั่งซื้อบางส่วนไปประเทศอื่นแล้ว” แหล่งข่าวระบุ

กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าการส่งออกปี 2557 จะขยายตัว 5% มูลค่า 243,096 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปี 2556 ที่คาดว่าจะขยายตัว 1% มูลค่า 231,514 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการส่งออกเดือน ธ.ค.2556 ที่กำลังจะแถลงข่าวในเร็วๆ นี้ แม้จะมีมูลค่าการส่งออกสูงกว่าเดือน ธ.ค.2555 ซึ่งอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ในภาพรวมจะทำให้การส่งออกทั้งปี 2556 ไม่น่าจะขยายตัวหรือ 0% แต่มีความเป็นไปได้ที่อาจจะติดลบ เพราะสถิติการส่งออกสะสมปี 2556 ช่วง ม.ค.-พ.ย. ติดลบ 0.65% ทำให้แนวโน้มการส่งออกทั้งปี 2556 น่าจะเป็นไปได้ทั้งสองแนวทาง

นายวัลลภ วิตนากร ประธานบริหารกลุ่มไฮ-เทค และรองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ปัญหาการเมืองในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบถึงการส่งออกในไตรมาส 2 ปี 2557 แล้ว เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าในช่วง ม.ค.2557 ได้ลดลง ซึ่งจะมีการส่งสินค้าจริงในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า หรือประมาณไตรมาส 2 ทำให้การส่งออกปี 2557 อยู่ในความเสี่ยงที่จะได้ไม่ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ 5%