ECONOMICS

แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมกราคม ปี 2563
POSTED ON 06/03/2563


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม 2563 อยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำ การผลิตภาคอุตสาหกรรม เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อน อย่างไรก็ดี รายได้เกษตรกรขยายตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ต่ำในปีก่อน ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงตามดุลการค้า ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิจากทั้งด้านสินทรัพย์และด้านหนี้สิน

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้

มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวร้อยละ 3.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ดี หากไม่รวมการส่งออกทองคำ มูลค่าการส่งออกหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 1.3 จาก 1) การส่งออกสินค้าหมวดที่ราคาเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันดิบหดตัวต่อเนื่อง อาทิ สินค้าเคมีภัณฑ์ และปิโตรเคมี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของอุปสงค์ของประเทศคู่ค้า 2) การส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคากับประเทศคู่แข่ง ประกอบกับภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตลดลง 3) การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่กลับมาหดตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานสูงในปีก่อน อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการย้ายฐานการผลิตมาไทยในช่วงก่อนหน้า ขณะที่สินค้าเกษตรแปรรูปขยายตัวต่อเนื่องตามการส่งออกน้ำตาล

 

เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน หดตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัว กำลังการผลิตที่ยังคงเหลืออยู่มาก ประกอบกับความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ยังไม่ดี ส่งผลให้ภาคธุรกิจยังคงชะลอการลงทุน สะท้อนจากเครื่องชี้การลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่หดตัวต่อเนื่องตามยอดขายเครื่องจักรในประเทศและยอดจดทะเบียนรถยนต์ที่ยังหดตัวสูง และการนำเข้าสินค้าทุนที่กลับมาหดตัว รวมทั้งเครื่องชี้การลงทุนหมวดก่อสร้างที่หดตัวต่อเนื่องจากทั้งพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างและยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง

 

การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อนจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน โดยรายจ่ายประจำหดตัวตามการเบิกจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ และการเบิกจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรที่ส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานสูงในปีก่อน ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางหดตัว เพราะได้รับผลจากความล่าช้าของ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 สำหรับรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจหดตัวเช่นกัน ตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านพลังงานและด้านคมนาคม

 

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามปัจจัยด้านรายได้ที่ยังอ่อนแอ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งสถาบันการเงินที่ยังระมัดระวังในการให้สินเชื่อแก่ภาคครัวเรือนหลังคุณภาพสินเชื่อด้อยลง แม้รายได้เกษตรกรจะขยายตัวสูงในเดือนนี้ แต่แนวโน้มทั้งปีคาดว่าจะหดตัวจากปัญหาภัยแล้ง โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงตามการใช้จ่ายหมวดบริการ แม้การใช้จ่ายหมวดสินค้าไม่คงทนปรับดีขึ้นบ้างตามยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค หลังจากลดลงมากในช่วงก่อนหน้า และการใช้จ่ายหมวดสินค้าคงทนหดตัวน้อยลงตามยอดขายรถยนต์ ที่ได้รับผลดีจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัวสอดคล้องกับอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัว

 

มูลค่าการนำเข้าสินค้าทรงตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน แต่หากไม่รวมการนำเข้าทองคำ มูลค่าการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 1.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตาม 1) การนำเข้าเชื้อเพลิงที่ขยายตัวจากทั้งด้านราคาและด้านปริมาณ และ 2) การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ เครื่องปรับอากาศ และเครื่องนุ่งห่ม อย่างไรก็ดี การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง และการนำเข้าสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบินและแท่นขุดเจาะหดตัว สอดคล้องกับภาคการส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ยังหดตัว

 

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่ร้อยละ 2.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซีย รัสเซีย และฮ่องกง ที่ยังขยายตัวได้ ซึ่งเป็นผลจากการเหลื่อมเดือนของเทศกาลตรุษจีนที่มาเร็วกว่าปีก่อน อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหดตัว เนื่องจากทางการจีนประกาศให้บริษัทนำเที่ยวในจีนหยุดดำเนินกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2563 เป็นต้นมา หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงขึ้นในประเทศจีน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1.05 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานที่กลับมาขยายตัวเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งจากผลของฐานราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ต่ำในปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงเล็กน้อย ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงตามดุลการค้า ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิ ทั้งจากด้านสินทรัพย์ตามการถอนเงินฝากในต่างประเทศของกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) และด้านหนี้สินตามการเข้ามาลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างประเทศ ส่วนใหญ่จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการกู้ยืมสินเชื่อระยะสั้นของสถาบันการเงินที่รับฝากเงินไทยเป็นสำคัญ