ECONOMICS

สภาอุตฯ ตรัง เผย ส่งออกไม้ยางพาราแนวโน้มสดใส หลังจีนสั่งซื้อเพิ่ม
POSTED ON 20/01/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ในปีนี้สถานการณ์ส่งออกไม้ยางพาราในพื้นที่จังหวัดตรังน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีออร์เดอร์จากจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากชะลอการสั่งซื้อไปเมื่อปีที่แล้วจากปัญหาเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ซึ่งจะทำให้บริษัทผู้ส่งออกไม้ยางพาราสามารถส่งไปจำหน่ายได้อย่างเต็มที่ แม้จะยังไม่สามารถผลิตได้เต็มกำลังก็ตาม และคาดว่าหลังตรุษจีนเป็นต้นไปจะมียอดสั่งไม้ยางพาราเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

 

ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาจังหวัดตรังมีมูลค่าการส่งออกไม้ยางพาราประมาณ 6,000 ล้านบาท อยู่ในอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ มีสัดส่วนการส่งออกไปจีนกว่า 85% ของการส่งออกไม้ยางทั้งหมด และจำหน่ายในประเทศ 10% และประเทศอื่น ๆ อีก 5%

 

"ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจในประเทศแถบยุโรปและอเมริกาไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้จีนที่เป็นตลาดใหญ่ของการส่งออกไม้ยางพาราของประเทศไทยไม่สามารถส่ง ออกเฟอร์นิเจอร์ได้ จึงชะลอการสั่งซื้อไม้ยางพาราจากประเทศไทยรวมถึงจังหวัดตรังด้วย ทำให้ในช่วงปีที่ผ่านมาสถานการณ์โดยรวมจึงค่อนข้างเงียบเหงา แต่ปีนี้เชื่อว่าสถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น" นายวิถี กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยต้องเร่งเปิดตลาดไม้ยางพาราออกไปยังประเทศอื่น ๆเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้จีนได้เข้าไปลงทุนปลูกยางพาราในหลายพื้นที่ทั้งในและต่าง ประเทศ โดยเฉพาะลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งคาดว่าเมื่อยางพาราให้ผลผลิตเต็มที่อาจจะมีผลต่อการนำเข้าจากประเทศไทยในอนาคต

 

นายวิถี กล่าวด้วยว่า "สำหรับจังหวัดตรังที่ผ่านมาได้เปิดตลาดส่งออกไปยังประเทศ อินเดียและพม่า แต่ผลตอบรับยังน้อยมาก จึงต้องมีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดตลาดกลุ่มประเทศอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ เห็นว่าน่าจะเข้าไปทำตลาดในกลุ่มใหม่ โดยเฉพาะประเทศตะวันออกกลางและเวียดนาม เพราะยังสามารถทำตลาดได้ และจะเป็นตลาดส่งออกที่เติบโตได้อย่างกว้างขวางในอนาคต แทนที่จะอยู่ที่ประเทศจีนอย่างเดียว"

 

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงเรื่องการปรับกระบวนการผลิต โดยการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ มีการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่าและต้องเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น ล่าสุดสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรังกำลังผลักดันให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ชีวมวลใน กระบวนการผลิต โดยเตรียมนำกลุ่มผู้ประกอบการไปดูงานที่ประเทศเกาหลีใต้ในเร็วๆ นี้

 

ปัจจุบันยางพาราของไทยค่อนข้างมีคุณภาพเป็นที่เชื่อถือของตลาดโลก มีปริมาณวัตถุดิบเพียงพอต่อคำสั่งซื้อจากภายในและนอกประเทศ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือราคาไม้ยางในอนาคตที่อาจไม่เหมาะสมกับภาวะ เศรษฐกิจ เพราะแม้ขณะนี้ไม้เกรด AB จะมีราคาประมาณ 300-400 บาทต่อคิวฟุต ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่แข่งขันได้กับราคาไม้ชนิดอื่นๆ ที่เป็นไม้คู่แข่งสำคัญ อาทิ ไม้โอ๊ก ไม้สน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกา แต่หากราคาไม้ยางพาราสูงขึ้นอาจส่งผลให้ประเทศคู่ค้าหันไปซื้อไม้ชนิดอื่น แทนไม้ยางพาราจากประเทศไทย