ECONOMICS

สศค. คาด GDP ปีนี้โตแค่ 3% หมดหวังเบิกจ่ายงบลงทุนเมกะโปรเจ็กต์
POSTED ON 13/01/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ผลกระทบการเมืองที่มีการชัตดาวน์กรุงเทพฯ ยังประเมินได้ยากว่าจะมีผลกระทบทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ลดลงมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาหากช่วงสั้นก็จะกระทบไม่มาก แต่หากกินเวลายาวจะกระทบมากขึ้น ซึ่งต้องประเมินผลกระทบแบบวันต่อวัน

 

ทั้งนี้ คาดว่าปัญหาทางการเมืองจะไม่กระทบกับการส่งออกในปีนี้หลังจากปีที่ผ่านมาขยายตัวติดลบ เพราะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลก และความสามารถในการแข่งขันของเอกชน ซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน คาดว่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าที่ 6.5%

 

น.ส.กุลยา กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2557 สศค.ประมาณการเศรษฐกิจปี 2557 จะขยายตัวได้ 3.5-4.5% ต่อปี หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 4% ต่อปี บนพื้นฐานสำคัญว่า การเบิกจ่ายเงินกู้ พ.ร.ก. 3.5 แสนล้านบาท และ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท จะต้องได้ไม่น้อยกว่า 30% คิดเป็นวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาทจากวงเงินที่พร้อมจะดำเนินการ 9.4 หมื่นล้านบาท แต่หากเบิกต่ำที่ 10% คิดเป็น 1.62 หมื่นล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 3.5% ต่อปี เท่านั้น

 

"คาดว่าการเบิกจ่ายเงินจาก 2 โครงการดังกล่าวคงเป็นไปลำบาก เพราะ พ.ร.ก.เงินกู้บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ต้องกลับไปทำประชาพิจารณ์ให้ครบ ส่วนพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท อยู่ระหว่างการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าเบิกเงินกู้ 2 โครงการนี้ไม่ได้อาจกระทบให้เศรษฐกิจปีนี้โตเพียง 3% ต่อปี ต่ำกว่ากรอบล่างที่กระทรวงการคลังประมาณการไว้" น.ส.กุลยา กล่าว

 

นอกจากนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาทางกระทรวงการคลัง ได้ปรับแผนการก่อหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2557 ซึ่งมีการยกเลิกวงเงินกู้จาก พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท ที่ คาดว่าจะกู้จำนวน 1.2 แสนล้านบาท เพราะเห็นว่าดำเนินการไม่ทันทำให้ สศค. ต้องประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจใหม่

 

ทั้งนี้ สศค.จะประสานกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ให้นำโครงการลงทุนอื่นที่สามารถมาชดเชยทั้ง 2 โครงการที่ขาดหายไป คาดว่าจะต้องใช้เวลา เพราะต้องรอบรรจุในงบประมาณปี 2558 ที่จะเริ่มเบิกจ่ายได้จริงในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สศค. ระบุว่า ปัญหาทางการเมืองมีความสำคัญกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ หากการเมืองมีปัญหารุนแรงมากๆ และยืดเยื้อ เศรษฐกิจไทยปีหน้าก็มีความเสี่ยงที่จะขยายตัวได้ต่ำกว่า 3% ต่อปี