เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายอัทธ์ พิศาลวานิช คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดว่า หากสถานการณ์การชุมนุมลากยาวไปถึงไตรมาส 2 จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ที่ขณะนี้เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่า เมื่อสั่งซื้อสินค้าจากไทยแล้วจะสามารถส่งสินค้าให้ได้ทันตามกำหนดหรือไม่ ซึ่งระยะยาวอาจกระทบการลงทุน และเกิดการย้ายฐานการผลิตของธุรกิจไทยและต่างประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้านแทน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง (CLMV) และอินโดนีเซีย ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของไทยในตลาดโลกลดลง

ทั้งนี้ ส่วนแบ่งทางการตลาดของสินค้าไทยในตลาดโลกครึ่งปีแรกของปี 2556 อยู่ที่ 1.16% ลดลงจากปี 2555 ที่ไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 1.24% และหากปล่อยไว้ให้อยู่ในสภาพนี้ ส่วนแบ่งตลาดของไทยมีโอกาสที่จดลดลงต่อเนื่องทั้งในตลาดอาเซียนและตลาดโลก

"ในอนาคตสินค้าไทยในตลาดโลกจะมีคู่แข่งมาแย่งตลาดมากขึ้นและการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น เพราะจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านเราได้เปรียบในเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางภาษี (GSP)ในการส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปอยู่" นายอัทธ์ กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมเสื้อผ้า อุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูป อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้ และอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป เป็นต้น

อย่างไรก็ดี แผนยุทธศาสตร์ส่งออกของกระทรวงพาณิชย์เท่าที่ดูก็ละเอียดดีแล้ว แต่การส่งออกจะโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้หรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจโลกด้วย ขณะที่ปัจจัยภายในอย่างสถานการณ์การเมืองในประเทศหากรุนแรงถึงขั้นปิดสนามบินก็อาจทำให้การส่งออกของไทยลดต่ำลงไปอีก