ECONOMICS

คณบดี ม.รังสิต คาดอนาคตคนมีสิทธิ์ตกงาน โรบอทเข้าแทนที่กว่า 5 แสนตัวใน 2 ปีข้างหน้า
POSTED ON 26/08/2561


อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดี ม.รังสิต เผยความต้องการใช้หุ่นยนต์ทั่วโลกสูงขึ้น คาดอีก 2 ปี จะมีหุ่นยนต์อุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 500,000 ตัว สวนทางกับความค้องการแรงงานที่ลดลง เนื่องจากหุ่นยนต์เริ่มอยู่ในจุดคุ้มทุนมากกว่าแรงงานมนุษย์แล้ว

 

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นต่อผลของการขยายตัวของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ว่า ความต้องการใช้หุ่นยนต์ทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 15% ในช่วง 2 ปีข้างหน้า (ค.ศ. 2018-2020) และคาดการณ์ว่าจะมีหุ่นยนต์อุตสาหกรรมอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 5 แสนตัว โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ สัดส่วนประชากรในวัยแรงงานลดลง ราคาหุ่นยนต์ลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้น กรณีของไทย เมื่อเปรียบเทียบราคาหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและระยะเวลาการใช้งาน กับ ค่าจ้างแรงงานในปัจจุบันพบว่า การใช้หุ่นยนต์เพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์เริ่มอยู่ในระดับที่คุ้มค่าต่อการลงทุนแล้ว ทำให้การใช้หุ่นยนต์ในสายการผลิตจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

“งานวิจัยขององค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) คาดการณ์ว่า ในสองทศวรรษข้างหน้า ตำแหน่งงานและการจ้างงานในไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 44 (กว่า 17 ล้านตำแหน่ง) มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่โดยระบบอัตโนมัติ โดยกลุ่มคนงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ พนักงานขายตามร้านหรือพนักงานบริการตามเครือข่ายสาขา พนักงานบริการอาหาร ภาคเกษตรกรรม แรงงานทักษะต่ำที่ทำงานซ้ำๆ คนงานโดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอ เสื้อผ้าและรองเท้าอาจได้รับผลกระทบสูงถึง 70-80% แรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน แรงงานในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ขณะที่ Economic Intelligence Unit (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดการณ์ว่าแนวโน้มการใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้แรงงานกว่า 6.5 แสนคนหรือ 15% ของจำนวนแรงงานทั้งหมดในภาคการผลิตจะถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์อุตสาหกรรมภายในปี ค.ศ. 2030”

ส่วนกิจการในไทยไม่ได้เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตัวเอง ไทยเป็นผู้ซื้อและ ผู้รับเทคโนโลยีมากกว่าเป็นผู้ขายและผู้สร้างเทคโนโลยี กิจการธุรกิจต่างๆก็ไม่ได้ลงทุนทางด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากนัก อุตสาหกรรมจำนวนไม่น้อยยังหวังพึ่งพาฐานทรัพยากรธรรมชาติ (ซึ่งก็ร่อยหรอลง) และค่าแรงราคาถูก (ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ถูกแล้ว) ส่วนผู้ประกอบการหุ่นยนต์ไทยมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ความเชื่อมั่นในตราสินค้า ขนาดการผลิตไม่ใหญ่พอจึงไม่ก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด

 

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงานสู่ความต้องการแรงงานที่มีความรู้ ขณะเดียวกัน การก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ การลดลงของภาวะเจริญพันธุ์ทำให้ขาดแคลนแรงงาน ระบบเศรษฐกิจจำเป็นต้องใช้ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์และสมองกลอัจฉริยะในการทำงานและในระบบการผลิตมากขึ้นอยู่แล้ว ต้องทำให้ "มนุษย์" ทำงานร่วมกับ "หุ่นยนต์" และ "สมองกลอัจฉริยะ" ได้อย่างผสมกลมกลืนซึ่งต้องอาศัยระบบมาตรฐานแรงงาน ลักษณะตลาดแรงงานและระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปตามพลวัตเหล่านี้ และต้องออกแบบระบบเศรษฐกิจใหม่และมีนโยบายที่ต้องให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ดูแลกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบมากขึ้น