ECONOMICS

สภาอุตฯ จี้แบงก์ชาติคุมลค่าเงิน คาดส่งออกปีนี้ฟื้นตัว
POSTED ON 04/01/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ รองประธาน และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาถือเป็นโอกาสของผู้ส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ส่งออกสินค้าเกษตร ซึ่งเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็กระทบต่อกำไร

 

ทั้งนี้ ระดับค่าเงินบาทในปัจจุบันถือว่าเปิดช่องให้ผู้ส่งออกนำไปเสนอราคากับคู่ค้าเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งได้ เทียบกับช่วงที่เงินบาทอยู่ที่ 29-30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แทบจะไปแข่งขันราคาไม่ได้เลย แต่การที่ค่าเงินอ่อนก็มีผลกระทบอีกด้านหนึ่ง คือ ทำให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น อาจทำให้สินค้าที่นำเข้าเพื่อมาขายในประเทศอาจจะปรับตัวขึ้นได้ แต่กรณีของน้ำมันคงไม่ปรับขึ้นเพราะแม้ค่าเงินอ่อนแต่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง

 

“ถ้าแบงก์ชาติสามารถดูแลเสถียรภาพเงินบาทให้อยู่ในระดับปัจจุบันได้ในระยะยาวได้จะเป็นโอกาสที่ดีมากของผู้ส่งออกที่จะส่งออกได้มากขึ้นเข้ามาชดเชยยอดขายในประเทศที่ลดลงเนื่องจากการบริโภคที่ซบเซาจากผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมือง” นายวิศิษฎ์ กล่าว

 

สำหรับการส่งออกอาหารปี 2557 เชื่อว่าจะมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านบาทได้ หลังจากกลุ่มที่เคยมีปัญหา กลับมาส่งออกได้มากอีกครั้ง เช่น กุ้ง ที่เริ่มฟื้นตัวจากโรคตายด่วน (อีเอ็มเอส) ขณะที่ตลาดยังมีความต้องการสูงทั้งในยุโรปและอเมริกา ขณะที่ไก่ ญี่ปุ่นก็กลับมานำเข้าจากไทย ตลาดเกาหลีและตะวันออกกลางก็ขยายตัวได้ดี ส่วนข้าวที่มีการส่งออกหดตัวอย่างมากในปีที่ผ่านมา ยังต้องจับตาว่ารัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายรับจำนำข้าวมีการปล่อยให้ข้าวไปอยู่ในมือเอกชนและเอกชนเป็นผู้ส่งออกหรือไม่

 

ด้าน นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนแตะ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จะช่วยหนุนการส่งออกกลุ่มยานยนต์ให้ดีขึ้น และเป็นจังหวะที่เหมาะเนื่องจากตอนนี้ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศได้ปรับแผนการผลิตที่เน้นขายในประเทศไปเป็นเพื่อส่งออกมากขึ้น