ECONOMICS

รมว.คลัง เชื่อ Brexit กระทบไทยแต่ไม่มาก
POSTED ON 30/06/2559


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม 30 มิ.ย.2559 - นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีการลงประชามติของสหราชอาณาจักรให้ออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ว่า ผลกระทบจะเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากก่อนที่สหราชอาณาจักรจะลงประชามติก็มีการคาดเดากันหลายแนวทาง เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทำให้มีความมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในตลาดการค้าและการลงทุนโลก โดยเฉพาะนักลงทุนที่มีความวิตกกังวลจึงมีการตั้งหลักและถอนการลงทุนที่มีอยู่ สะท้อนให้เห็นดัชนีซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกปรับตัวลดลง รวมทั้งค่าเงินปอนด์ที่ปรับลดลงด้วย

 

ในส่วนผลกระทบต่อประเทศไทย กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ ได้มีการเตรียมการรับมือเรื่องนี้มานานแล้ว ตั้งแต่รู้ว่าจะมีการทำประชามติ ธปท.มีการเตรียมสภาพคล่องไว้ ส่วนธนาคารพาณิชย์ก็มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้ว ทุกฝ่ายหันมาดูแลตัวเองและป้องกันผลกระทบเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง ซึ่งยอมรับว่าเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ การค้าและการลงทุนก็จะชะลอตัวลงไปพอสมควร

 

 “ขณะนี้เศรษฐกิจไทยไม่ได้เน้นการพึ่งพาเศรษฐกิจต่างประเทศ รวมถึงการส่งออก แต่เน้นไปที่การใช้จ่ายและการลงทุนภายในประเทศเอง ซึ่งรัฐบาลเน้นเรื่องนี้ตลอด สะท้อนให้เห็นจากการขยายตัวเศรษฐกิจ (GDP) ไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศอื่นปรับลดลง ซึ่งหากเศรษฐกิจโลกดี เศรษฐกิจไทยก็จะแล่นฉิวไปแล้ว ขณะเดียวกันโอกาสของเศรษฐกิจไทยยังมีจากการลงทุนภาคเอกชน และที่ผ่านมารัฐก็ออกมาตรการเอื้อการลงทุนไปมาก หากเอกชนลงทุนเพิ่มเศรษฐกิจก็จะขยายตัวได้ต่อเนื่อง” รมว.คลัง กล่าว

 

ด้าน นายเชาวน์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า การที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรปจะมีผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในกรณีพื้นฐาน (Base Case) คาดว่าผลกระทบจะมาจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์และการชะลอตัวของเศรษฐกิจอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งจะกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปีนี้ 0.07% หรือประมาณ 1 0,000 ล้านบาท และกระทบ GDP ไทยในปี 2560 ราว 0.2% แต่ในกรณีที่เลวร้ายที่ผลกระทบลามไปถึงเศรษฐกิจประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป (EU) อาจฉุด GDP ของไทยให้หายไป 0.2% ในปีนี้ และ 0.75% ในปี 2560

 

สำหรับผลกระทบเรื่อง Brexit ต่อธุรกิจไทยในครึ่งหลังคาดว่าจะอยู่ในกรอบจำกัด แต่ภาคธุรกิจควรป้องกันความเสี่ยงจากความเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ รวมถึงกระจายตลาด โดยในระยะสั้นธุรกิจไทยจะได้รับผลกระทบในวงจำกัดจากความผันผวนของค่าเงินที่ฉุดอำนาจซื้อของชาวอังกฤษ รวมถึงชาวยุโรป โดยกระทบรายได้ส่งออกและท่องเที่ยวไทย แต่ในทางกลับกันอาจเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการนำเข้าและท่องเที่ยวต่างประเทศ

 

ขณะที่ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ คาดว่า Brexit อาจกดดันอำนาจซื้อของผู้บริโภค ซึ่งจะกระทบการส่งออกรถยนต์ไปยังอังกฤษให้มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนการส่งออกรถยนต์ไป EU อาจจะประคองการขยายตัวไปได้ แต่หากความเชื่อมั่นยังไม่ฟื้นตัว ผลกระทบก็อาจลากยาวต่อเนื่องไปจนถึงปี 2560

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics