เศรษฐกิจอุตสาหกรรม 30 มิ.ย.2559 - นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบโครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีสเทิร์นอีโคโนมิก คอร์ริดอร์ ดีเวลลอปเมนท์ (EEC) หรือ อีสเทิร์นซีบอร์ด เฟส 2 และได้มอบหมายให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม กองทัพเรือ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งระบบ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อพัฒนาพื้นที่ใน 3 จังหวัด ซึ่งได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน

ในโครงการดังกล่าวยังมีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมรองรับอีกประมาณ 30,000 ไร่ โดยจะเป็นพื้นที่พัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ แบ่งเป็น 5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ ได้แก่ (1) อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (2) อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (3) การท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (4) การเกษตรเทคโนโลยีชีวภาพ และ (5) อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และ 5 อุตสาหกรรมอนาคต หรือ New S-curve ซึ่งได้แก่ (1) อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (2) อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (3) เชื้อเพลิงชีวภาพ และเคมีชีวภาพ (4) อุตสาหกรรมดิจิตอล และ (5) การแพทย์ครบวงจร โดยทางรัฐบาลได้เตรียมจัดทำ พ.ร.บ.การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.... ขึ้นมา อีกทั้งการลงทุนในพื้นที่นี้จะได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ และได้รับการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่อีกด้วย

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก หรือ อีสเทิร์นซีบอร์ด เฟส 1 นั้น เริ่มขึ้นในปี 2524 ซึ่งรัฐบาลในยุคนั้นได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไปประมาณ 200,000 ล้านบาท และมีเอกชนลงทุนกว่า 1.9 ล้านล้านบาท ส่วนอีสเทิร์นซีบอร์ด เฟส 2 นี้ ตั้งเป้าไว้ว่า ภายใน 5 ปี รัฐบาลจะมีเงินลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโครงการดังกล่าวประมาณ 300,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีเงินลงทุนจากภาคเอกชนไม่ต่ำกว่า 1.9  ล้านล้านบาท

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics