เศรษฐกิจอุตสาหกรรม 16 ก.พ.2559 - นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา ผู้เชี่ยวชาญระดับ 12 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 ก.พ.2559 นี้ กนอ.จะเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดสระแก้ว จำนวน 660.54 ไร่ กับกรมธนารักษ์ โดยมีระยะเวลาเช่า 50 ปี คาดว่าจะใช้งบลงทุนพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท

ทั้งนี้ กนอ.คาดว่าจะเสนอโครงการนิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดสระแก้ว ให้สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นชอบโครงการในเดือน มี.ค.2559 นี้ และจะยื่นเสนอรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.2559 หลังจากเข้าที่ประชุมให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบ ก่อนเสนอเข้า ครม.เพื่ออนุมัติโครงการ ซึ่งงบลงทุนบางส่วนจะมาจากรัฐบาล อีกส่วนมาจาก กนอ.เอง คาดจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน ต.ค.-พ.ย.2559

"เขตเศรษฐกิจพิเศษที่สระแก้วมีคนสนใจมาก มีคนมาสอบถามเยอะ มีทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ มีทั้งอุตสาหกรรมที่ส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน อุตสาหกรรมที่ย้ายฐานการผลิตจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมไปถึงธุรกิจแปรรูปสินค้าเกษตร เนื่องจากการขนส่งที่นี่ใช้เวลาแค่ 1-2 ชั่วโมง ก็เดินทางไปถึงท่าเรือแหลมฉบังแล้ว" นายอัฐพล กล่าว

ส่วนโครงการนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดตาก จำนวน 837.37 ไร่ ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากยังมีประชาชนที่ตั้งรกรากในที่ดินของราชพัสดุดังกล่าวอีก 97 ราย จึงต้องให้ทางจังหวัดตากเจรจากับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวก่อน ถึงจะเริ่มดำเนินการได้ โดยทาง กนอ.ตั้งงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท

เช่นเดียวกับการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดสงขลา จำนวน 1,121.50 ไร่ ที่มีชาวบ้านเข้าไปอยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่จะใช้พัฒนาเป็นนิคมฯราว 200 ราย ซึ่งเดิมเป็นที่ดินที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ายึดทรัพย์สินจากเจ้าของเดิมที่ทำผิดกฎหมาย และคดีเพิ่งจบไปเมื่อ 2 ปีก่อน

ที่ดินในพื้นที่จังหวัดสงขลานี้มีปัญหาซับซ้อนมากกว่าในจังหวัดตาก จึงต้องรอให้ทางจังหวัดสงขลาลงมาดำเนินการ ก่อนที่ กนอ.จะเข้าไปพัฒนาโครงการ โดยทาง กนอ.ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 1,200 ล้านบาท

โดยพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งในจังหวัดตาก สงขลา และสระแก้ว จะเป็นพื้นที่ให้เช่าเหมือนกันหมด

ด้าน นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า บีโอไอจะให้สิทธิประโยชน์กับ 13 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ดำเนินการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ (1) อุตสาหกรรมการเกษตรประมง และกิจการที่เกี่ยวข้อง (2) เซรามิกส์ (3) อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและเครื่องหนัง (4) อุตสาหกรรมผลิตเครื่องเรือน (5) อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ (6) การผลิตเครื่องมือแพทย์ (7) อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน (8) อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (9) การผลิตพลาสติก (10) การผลิตยา (11) โลจิสติกส์ (12) นิคมหรือเขตอุตสาหกรรม และ (13) กิจการสนับสนุนการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษทั่วทั้งประเทศมีทั้งหมด 10 แห่ง ระยะที่ 1 มี 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด และสงขลา ส่วนระยะที่ 2 มี 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย หนองคาย นครพนม กาญจนบุรี และนราธิวาส

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics