ECONOMICS

จีนแซงญี่ปุ่น ลงทุนในไทยสูงสุด
POSTED ON 20/10/2558


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ปี 2558 มีนักลงทุนจากจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 แทนนักลงทุนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บีโอไอได้มีการปรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ ประกอบกับแต่ละโครงการของจีนมีเม็ดเงินลงทุนค่อนข้างสูง

 

โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.2558) โครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอมีจำนวนทั้งสิ้น 332 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 50,267 ล้านบาท โดยสิงคโปร์ลงทุนเป็นอันดับ 1 จำนวน 51 โครงการ เงินลงทุน 13,100 ล้านบาท จีน 37 โครงการ เงินลงทุน 10,000 ล้านบาท ส่วนญี่ปุ่น 92 โครงการ เงินลงทุน 9,900 ล้านบาท ทั้งนี้ แม้ว่าโครงการของญี่ปุ่นยังคงมีมากอยู่ก็จริง แต่จีนมีมูลค่าการลงทุนที่มากเป็นอันดับหนึ่ง เพราะมีการลงทุนผ่านสิงคโปร์ด้วย

 

เมื่อบีโอไอปรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่เน้นเชิงนวัตกรรม ญี่ปุ่นจึงเน้นการลงทุนที่กิจการด้านสำนักงานตัวแทนการค้า สำนักงานภูมิภาค และเป็นการลงทุนของเอสเอ็มอี โดยล่าสุดบีโอไอได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ นายยาสุโตโมะ ซูซูกิ นายกเทศมนตรี เมืองมาฮามัตสึ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการลงทุนของทั้งสองฝ่าย

 

"บีโอไอจะพยายามดึงการลงทุนญี่ปุ่นเพื่อที่จะให้การลงทุนญี่ปุ่นในไทยกลับมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องซึ่งเห็นว่าเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพของญี่ปุ่นและตรงเป้าหมายนโยบายของบีโอไอที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงจะมีโอกาสเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และก็ไม่กังวลว่าการลงทุนญี่ปุ่นที่มูลค่าลดลง ซึ่งจะเทียบกับปีที่ผ่านมาไม่ได้ เพราะเราได้ปรับมาตรการการลงทุนใหม่" นางหิรัญญา กล่าว

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics