เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน ก.ย.2558 ว่า ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 82.8 เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค.2558 ที่ระดับ 82.4

สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐคือ ต้องการให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงบลงทุนในโครงการที่รัฐบาลได้อนุมัติไปแล้ว รวมถึงกำหนดแผนปฏิบัติงานให้เป็นรูปธรรมและเป็นไปตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งเจรจาการค้ากับประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อขยายตลาดและลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน พร้อมทั้งต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนหรือรูปแบบ PPP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วย

นายสุพันธ์ ระบุว่า "มาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ล่าสุดของรัฐบาลน่าจะช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายและโอนซื้อเพิ่มขึ้น ส่วนมาตรการการเงินคาดว่าจะเห็นผลในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทั้งกองทุนหมู่บ้าน เงินจัดสรรให้แต่ละตำบล มาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี เชื่อว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ดีขึ้น ซึ่งตัวเงินจะเห็นผลขับเคลื่อนชัดเจนในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า"

"ในปีหน้ากังวลเรื่องปัญหาปัญหาภัยแล้ง ขณะที่คู่แข่งของไทยก็ไม่สามารถผลิตสินค้าเกษตรได้มากขึ้น โดยระดับราคาสินค้าทางการเกษตรเริ่มค่อยๆ ดีขึ้น ส่วนยางพาราก็คาดว่าจะดีขึ้นในปีนี้ โดยรวมแล้วมาตรการต่างๆ ของภาครัฐมีผลต่อเศรษฐกิจไทยพอสมควร" นายสุพันธ์ กล่าว

ขณะที่ทางด้าน นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ฯ ได้ปรับลดเป้าประมาณการณ์ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศในปีนี้ลง จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะมียอดรวม 8.5 แสนคัน ปรับลดลงเหลือ 7.5 - 8 แสนคัน ซึ่งถือเป็นการปรับลดรอบที่ 2 หลังจากที่เมื่อต้นปี 2558 ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 9.5 แสนคัน ส่วนการส่งออกยังคงเป้าเดิมที่ 1.2 ล้านคัน และยอดผลิตรถยนต์ในปี 2558 ยังคงเป้าหมายไว้ที่ 1.95 - 2 ล้านคัน

โดยสถานการณ์ยอดจำหน่ายในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ มียอดจำหน่ายสะสมรวม 553,826 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 14.6% ซึ่งต้องจับตามองว่า ผลจากการเตรียมเริ่มใช้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ที่อิงค่าการปล่อยมลพิษที่จะทำให้ราคาจำหน่ายรถยนต์ในประเทศเพิ่มสูงขึ้นนั้นจะทำให้ประชาชนหันมาซื้อรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีนี้เพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด

สำหรับปัญหาของยอดรถซื้อต่ำลง เพราะรายได้ต่อหัวต่อคนต่อปีของไทยยังไม่ดีขึ้น จากรายได้ 5,741 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปีในปี 2556 ลดลงเหลือ 5,519 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี ในปี 2557 แต่ถ้าหากปีหน้าคนไทยสามารถเพิ่มรายได้ต่อหัวต่อปีได้ ก็เชื่อว่าจะทำให้อำนาจซื้อมีเพิ่มขึ้น

สาเหตุสำคัญที่ทำให้กำลังซื้อลดลง เพราะระดับราคาพืชไร่ไม่ดี การเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนยังคงต่ำกว่าเป้าหมาย การลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัวจากหลายสาเหตุ ทำให้ยอดขายภายในประเทศติดลบ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางยอดขายที่ลดลงปรากฏว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งตรวจการกลับมียอดขายเพิ่มขึ้น เพราะมีรุ่นใหม่ราคาไม่ถึง 1 ล้านบาทเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้การซื้อเปลี่ยนแปลงในทิศทางเพิ่มขึ้น

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics