ที่มารูปภาพ : สำนักข่าวไทย

เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - ผลประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมาร์ มีการลงนามสัญญาสัมปทานโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะแรก ระหว่างคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและกลุ่มธุรกิจไทย คาดมีมูลค่าลงทุนประมาณ 1,600 ล้านดอลลาร์ฯ ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ นายอู ญาณ ทุน รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมาร์ เพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุมในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 4 ณ นครเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยมีรัฐมนตรีและผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากฝ่ายไทยและเมียนมาร์เข้าร่วมประชุม

"การประชุมครั้งนี้นับว่าประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยมีการรับทราบและอนุมัติเรื่องสำคัญ ได้แก่ รับทราบสาระสำคัญของร่างสัญญาสัมปทานโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะแรก และบันทึกความเข้าใจฉบับเพิ่ม ซึ่งผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเมียนมาร์ และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษของเมียนมาร์แล้ว โดยมีโครงการย่อย ประกอบด้วย ท่าเรือขนาดเล็ก พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมระยะแรกและการบริหารจัดการถนนสองช่องทาง โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก โรงงานผลิตไฟฟ้าชั่วคราว อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ระบบโทรคมนาคมภาคพื้นดิน และพื้นที่อยู่อาศัยระยะแรก ซึ่งภายหลังการประชุมได้มีการลงนามในสัญญาสัมปทานโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะแรกดังกล่าว ระหว่างคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและกลุ่มธุรกิจไทย ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัทสวน อุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แอลเอ็นจี พลัส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติแผนแม่บทการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในระยะสมบูรณ์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากเนด้า เพื่อใช้เป็นกรอบในการพัฒนาโครงการร่วมกับประเทศญี่ปุ่นต่อไป" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

ที่ประชุมฯยังเห็นชอบให้มีโครงการคลังเชื้อเพลิงลอยน้ำเป็นส่วนหนึ่งในโครงการทวาย ซึ่งเป็นไปตามกรอบความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทยเมียนมาร์ที่ได้ลงนามไปก่อนหน้านี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้สามารถใช้เงินบาทไทยเป็นสกุลเงินในการทำธุรกรรมด้านการค้าการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของเมียนมาร์ โดยให้มีคณะทำงานร่วมด้านการเงินจากทั้ง 2 ประเทศร่วมจัดทำข้อเสนอต่อไป

ภายหลังการลงนามในสัญญาสัมปทานกับกลุ่มนักลงทุนไทยแล้ว

นายอู ญาณ ทุน กล่าวว่า "โครงการทวายระยะแรกคาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี ก่อให้เกิดการจ้างงานต่อคนในพื้นที่ประมาณ 300,000 ตำแหน่ง ภายในปี 2568 โดยจะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมสู่พื้นที่ภูมิภาคที่มุ่งเน้นการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชนอย่างยั่งยืน"

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายได้มีการประชุมหารือ 3 ฝ่ายระหว่างไทย เมียนมาร์ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง 3 ฝ่ายเกี่ยวกับความร่วมมือการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2558 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยที่ประชุมมีข้อสรุปว่าญี่ปุ่นยืนยันที่จะเข้าร่วมการพัฒนาโครงการทวายต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมจำเป็นต้องมีการหารือในระดับคณะทำงานกลุ่มย่อยจากทั้ง 3 ประเทศอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : สำนักข่าวไทย

Tag : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing