ECONOMICS

สทร.คาด ส่งออกปีนี้ติดลบยาวยันสิ้นปี ติดลบสูงสุดในรอบ 6 ปี
POSTED ON 03/08/2558


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สทร.) เปิดเผยว่า ผลจากการฟื้นตัวช้าของอุปสงค์ตลาดโลกและค่าเงินบาทของประเทศคู่แข่งมากกว่าไทย แม้เงินบาทจะมีทิศทางอ่อนค่าลงไปที่ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และการย้ายฐานการผลิตของกลุ่มสินค้าสำคัญ ปัจจัยลบเหล่านี้ล้วนกระทบการส่งออก ดังนั้น สทร.จึงปรับประมาณการณ์ส่งออกตลอดปี 2558 ว่า การส่งออกจะติดลบในช่วงร้อยละ 3.7-4.7 โดยค่ากลางคาดว่าจะติดลบร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยอาจมีมูลค่ารวมเพียง 218,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และติดลบมากที่สุดในรอบ 6 ปี

 

สำหรับการส่งออกที่ติดลบนี้เป็นการติดลบจากสินค้า 4 ตัวหลักที่ส่งออกติดลบ คือ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และยางพารา โดย 4 ตัวนี้ส่งออกติดลบร้อยละ 14 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ส่งผลให้การส่งออกภาพรวมติดลบร้อยละ 2.5 ที่เหลือเป็นผลจากการส่งออกติดลบจากสินค้าตัวอื่นอีก 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ส่วนการส่งออกเดือน มิ.ย.2558 มีมูลค่า 18,162 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 7.87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.2558) มีมูลค่ารวม 106,856 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 4.84 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

 

ขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาท เดือน มิ.ย.2558 มีมูลค่า 603,382 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.12 และช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.2558) มีมูลค่าส่งออกรวม 3,404,979 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าการส่งออกจะติดลบร้อยละ 3.6 ดีขึ้นเล็กน้อย

 

ทั้งนี้ การส่งออกไปตลาดหลักและตลาดสำคัญของไทยติดลบเกือบทั้งหมด เช่น สหรัฐฯ ติดลบร้อยละ 0.1 แคนาดา ติดลบร้อยละ 4.2 จีน ติดลบร้อยละ 0.8 อาเซียน 5 ประเทศ ติดลบร้อยละ 11.6 ญี่ปุ่น ติดลบร้อยละ 4.2 เกาหลีใต้ ติดลบร้อยละ 18.2 สหภาพยุโรป (อียู) 15 ประเทศ ติดลบร้อยละ 7.1 และ ตะวันออกกลาง ติดลบร้อยละ 24 ขณะที่การส่งออกไปตลาดกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม เติบโตร้อยละ 10.8

 

ด้าน นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน สทร.กล่าวว่า เงินบาทที่อ่อนค่าลงประมาณร้อยละ 6 จัดว่าอ่อนค่าในระดับกลางเมื่อเทียบประเทศคู่แข่งทั้งหมด ส่งผลดีต่อการส่งออกระยะสั้น ช่วยให้ต้นทุนต่ำลงและแข่งขันบางตลาดดีขึ้น ส่วนการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังนั้น คาดว่า ในเดือน ก.ค.-ส.ค.2558 จะติดลบร้อยละ 2.5 เดือน ก.ย.2558 ติดลบร้อยละ 6 เดือน ต.ค.2558 ติดลบร้อยละ 7 และเดือน พ.ย.-ธ.ค.2558 จะติดลบร้อยละ 2 รวมครึ่งปีหลังติดลบร้อยละ 3.6 ตลอดปีนี้ส่งออกติดลบร้อยละ 4.2

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย