เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ศักยภาพการผลิตของไทยยังอยู่ในอันดับต้นๆ ของอาเซียน ซึ่งจากผลสำรวจของ World Economic Forum (WEF) พบว่า ในปี 2557-2558 ศักยภาพการแข่งขันของไทยอยู่ในอันดับที่ 31 ดีขึ้นกว่าปีก่อนที่อยู่ในอันดับ 37 หรือดีขึ้น 6 อันดับ แต่เมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศที่มีศักยภาพการแข่งขันสูงสุด ได้แก่ สิงคโปร์ ซึ่งอยู่อันดับ 2 ของโลก รองลงมาเป็นมาเลเซีย อยู่ในอันดับ 20 ตามมาด้วยไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

ทั้งนี้ สาเหตุที่การส่งออกของไทยติดลบต่อเนื่อง นอกจากจะมาจากภาวะเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมืองภายในประเทศแล้ว ยังมาจากปัญหาด้านการตลาด เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการเน้นเพียงเรื่องการผลิต โดยหากเพิ่มกลยุทธ์ด้านการตลาดจะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้มาก ดังนั้น รัฐบาลจึงได้มีนโยบายให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวจากการผลิตเพื่อขายไปสู่การบริหารจัดการด้านการขายมากขึ้น และส่งเสริมให้ไทยเป็น "เทรดดิ้งเซ็นเตอร์" โดยใช้ความได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขยายการค้ารองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) พร้อมได้ปรับมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และมีนวัตกรรมให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตภายในประเทศ

นายอุดม กล่าวว่า จากการประเมินภาวะตลาดโลกในขณะนี้มีปัจจัยลบด้านต่างๆ สูง โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งในต่างประเทศ จากกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส หากบานปลายจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปัญหาการถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) จากสหภาพยุโรป และภาวะเศรษฐกิจยุโรปที่ซบเซา ซึ่งปัจจัยต่างๆ จะกระทบต่อยอดการส่งออกของไทย ทำให้ประเมินว่ายอดการส่งออกรวมของไทยในปีนี้อาจจะขยายตัวเพียงประมาณ 1-2%

ขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3-4 และจีดีพีอุตสาหกรรมจะขยายตัวประมาณ 2-3% ซึ่ง สศอ.จะติดตามถึงตัวเลขการส่งออกในช่วงกลางปีนี้ จึงจะสามารถประเมินได้ชัดเจนอีกครั้ง

ที่มา : บ้านเมือง