ECONOMICS

สภาอุตฯ ชี้ รัฐต้องเร่งปฏิรูปภาษี-โครงสร้างราคาพลังงาน
POSTED ON 25/12/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาถือว่ามีความตั้งใจดี ทั้งในเรื่องของการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น, การร่วมมือกับภาคเอกชนสร้างความปรองดอง, มีการเรียกร้องให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาคมโลก ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี แต่สิ่งที่ภาครัฐยังต้องมีการผลักดันอย่างเร่งด่วน คือ การปฏิรูปภาษี และการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน รวมถึงเรื่องของราคาสินค้าเกษตร เพื่อช่วยให้ภาคเกษตรสามารถยกระดับรายได้เพิ่มขึ้น

 

สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะมีการลงทุนในปี 2558 นั้น มองว่าจะเป็นตัวช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตไปได้ โดยยังคงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีหน้าไว้ที่ 3.5-4% ขณะที่การส่งออกในปีหน้า ส.อ.ท.ประเมินว่าจะเติบโตได้ 3.5-4% เป็นผลมาจากการส่งออกรถยนต์, อาหาร, อิเล็กทรอนิกส์ และก่อสร้าง ที่ยังเป็นปัจจัยหลักที่จะผลักดันยอดการส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ดี ด้านอุตสาหกรรมการก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, พม่า และ เวียดนาม) ในปีหน้าจะมีการส่งออกที่เกี่ยวกับสินค้าในอุตสาหกรรมก่อสร้างค่อนข้างมาก โดยปัจจุบันไทยมีมูลค่าการส่งออกไปกลุ่ม CLMV ราว 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี

 

ทั้งนี้ จากการที่คณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) เห็นชอบให้มีการปรับลดค่า Ft รอบเดือน ม.ค.-เม.ย.2558 ลง 5-10 สตางค์/หน่วย ตามต้นทุนราคาเชื้อเพลิงที่ลดลง ซึ่งจะเสนอให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) พิจารณานั้น มองว่าภาครัฐจะต้องลดค่า Ft ประมาณ 5-6% หรือคิดเป็นขั้นต่ำ 20 สตางค์/หน่วย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

ขณะเดียวกัน มองว่าผู้ประกอบการภาคขนส่งควรจะเร่งปรับลดค่าโดยสารลงอีก 15-20% หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลก และราคาน้ำมันในประเทศมีการปรับลดลงไปมากแล้ว