ECONOMICS

อีก 5 ปี กลุ่ม CLMV จะแซงหน้าไทยในตลาดจีน
POSTED ON 26/11/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยบทวิเคราะห์การแข่งขันสินค้าไทยและอาเซียนในตลาดจีนในอีก 5 ปีข้างหน้า (2558-2562) ภายใต้กรอบกรอบ FTA อาเซียน-จีน ว่า ในปี 2562 มูลค่าตลาดการค้าของจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันที่มีมูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาเซียนมีส่วนแบ่งตลาดในจีน 10% โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 รองจากมาเลเซีย คิดเป็น 1.95% มีสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม

 

และคาดว่าในปี 2562 ส่วนแบ่งตลาดของอาเซียนในจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 11% โดยส่วนแบ่งตลาดของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.97% แต่อันดับจะร่วงลงมาอยู่ที่ 4 ของกลุ่มอาเซียน เพราะอินโดนีเซีย และเวียดนาม จะขยับตัวขึ้นมาแทน ขณะเดียวกันคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ประเทศในกลุ่มอาเซียนอาจจะขาดดุลการค้ากับจีนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะจะนำเข้าสินค้าจากจีนมากขึ้น

 

สำหรับการส่งสินค้าต่างๆ ไปจีน การแข่งขันในอาเซียนจะมีสูงขึ้น โดย 5 ปีข้างหน้า ตลาดข้าวไทยในจีน ประมง สิ่งทอ เครื่องแต่งกาย รองเท้า และอัญมณี จะเสียหายมากขึ้น, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จะได้รับความเสียหาย, กระดาษ จะเสียหายลดลง, พลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ จะได้ประโยชน์ลดลง

 

ขณะที่ยางและผลิตภัณฑ์ยาง จะได้รับประโยชน์ และกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์มากขึ้น คือ มันสำปะหลัง ผลไม้ และอาหารแปรรูป ดังนั้น จึงทำให้ใน 5 ปีข้างหน้าไทยจะเสียหายจากการแข่งขันสินค้ากับอาเซียนในตลาดจีนรวม 3,629.3 ล้านเหรียญสหรัฐ จากที่ปัจจุบันไทยได้ประโยชน์อยู่ที่ 1,857.7 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ในอีก 5 ปีข้างหน้ากลุ่มอาเซียนใหม่ หรือ CLMV จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดจีนจากกลุ่มอาเซียนเก่า เพราะกลุ่ม CLMV เริ่มมีศักยภาพทางด้านแรงงานและคุณภาพทางด้านการผลิตจากประเทศต่างๆ ที่เข้าไปลงทุน ทั้งจากในและนอกอาเซียนอย่างเกาหลีและญี่ปุ่นที่เข้าไปลงทุน ซึ่งไทยก็เป็นประเทศที่เสียหายมาก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีการใช้แรงงานเป็นหลัก คือ สิ่งทอ เสื้อผ้า และรองเท้า ส่วนตลาดข้าวก็ต้องเสียส่วนแบ่งให้ประเทศ เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาร์