ECONOMICS

"จักรมณฑ์" มั่นใจ จีดีพีอุตฯ ปีหน้าโต 6%
POSTED ON 25/11/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ อนาคตเศรษฐกิจไทย หลังปฏิรูปอุตสาหกรรมจัดโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ว่า เศรษฐกิจไทย(จีดีพี) ปี 2558 จะสามารถขยายตัวดีขึ้นกว่าปีนี้ โดยจะเติบโตประมาณ 3-4% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกดีขึ้นและราคาน้ำมันลดลง

 

ขณะที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองยุติลง เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าปรับตัวดีขึ้นจะผลักดันให้การส่งออกของไทยดีขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับการเดินหน้าโครงการลงทุนภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศให้ปรับตัวดีขึ้น บวกกับการขอรับส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติและไทยก็จะมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน ก่อให้เกิดการจ้างงาน จึงคาดว่าจีดีพีอุตสาหกรรมไทยปีหน้าจะขยายตัว 6%

 

สำหรับการปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมไทยต้องดำเนินการใน 3 ส่วนพร้อมกัน ได้แก่ (1) การประเมินศักยภาพอุตสาหกรรมของประเทศว่าอยู่ในระดับใด และเร่งปรับปรุงให้เป็นไปตามแนวทางที่วางไว้ (2) การเชื่อมโยงอุตสาหกรรมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานมีความคล่องตัว และ (3) การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขัน ซึ่งเป็นผลจากการวางนโยบายภาครัฐที่มีความเสถียรภาพและมีความต่อเนื่องส่งผลให้นักลงทุนวางแผนดำเนินโครงการระยะยาวได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่านโยบายประชานิยมบางส่วน อาทิ โครงการจำนำข้าวและโครงการรถยนต์คันแรก ส่งผลกระทบต่อทิศทางการวางนโยบายด้วยการทำให้เกิดอุปสงค์เทียม

 

ขณะเดียวกันไทยต้องเร่งแก้ไขกฎหมายให้สอดรับกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันซึ่งเมื่อนำมาเสริมกับจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ไทยอยู่ในอันดับต้นของภูมิภาค จะช่วยให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยสูงขึ้น โดยโครงสร้างพื้นฐานของไทยขณะนี้เป็นรองเพียงประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์เท่านั้นแต่ยังเห็นสัญญาณดีที่จากการที่ไทยเร่งปรับปรุงระบบขนส่งทางรางและทางน้ำอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้อุตสาหกรรมไทยจะมีการพัฒนามากกว่าประเทศคู่แข่งแต่ยอมรับว่าเสน่ห์ลดลง เพราะเพื่อนบ้านที่เคยมีปัญหาขณะนี้มีความมั่นคงทางการเมืองและมีการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเข้ามาใกล้ประเทศไทย ขณะที่ยุทธศาสตร์ของนักลงทุนต่างชาติเองก็มีการกระจายความเสี่ยงไม่ได้มุ่งมาลงทุนประเทศไทยเหมือนในอดีต ดังนั้น เพื่อให้อุตสาหกรรมสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากผู้ประกอบการต้องปรับตัวแล้ว ภาครัฐจะต้องเข้าไปช่วยเหลือเป็นรายอุตสาหกรรม สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงระหว่างการผลิตและการตลาด

 

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมไทยกำลังประสบปัญหาเรื่องการวิจัยพัฒนา โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่แม้จะมีเทคโนโลยี แต่ไม่มีความรู้เรื่องการจดสิทธิบัตร ดังนั้น อยากให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเร่งด่วน ล่าสุดทราบว่าประเทศเวียดนามนำสินค้าของไทยไปจดสิทธิบัตรสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไทย จึงเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข

 

ทั้งนี้ การปรับตัวของอุตสาหกรรมไทยควรศึกษาตลาดโลกว่าประเภทใดกำลังได้รับความนิยม ซึ่งปัจจุบันสินค้ากลุ่มเพื่อสุขภาพ กรีนโปรดักส์ บริการ กำลังได้รับความนิยม ดังนั้น ควรผลิตสินค้าป้อนตลาดดังกล่าว