เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมใน 9 เดือนแรกของปีนี้ติดลบ ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องมาเป็นเวลา 18 เดือน ขณะที่การผลิตอุตสาหกรรมไม่มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างที่คาด ทางสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จึงพิจารณาปรับลดประมาณการดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของปีนี้ลงเป็นติดลบ 3% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 1.5-2%

ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้การผลิตอุตสาหกรรมออกมาต่ำกว่าที่คาดนั้นมาจากการส่งออกที่ตกต่ำตามเศรษฐกิจโลก ล่าสุด ระยะ 9 เดือนแรกของปีนี้การส่งออกติดลบ 0.85% ซึ่งภาคการผลิตอุตสาหกรรมเกิน 60% ก็เป็นการผลิตเพื่อส่งออก ขณะที่การผลิตเพื่อขายในประเทศก็ลดลงไปตาม การบริโภคในประเทศก็ชะงักงัน ด้านการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐยังล่าช้า ยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งผลไปยังภาคการผลิตได้

นอกจากนี้ สศอ.ยังลดประมาณการจีดีพีปีนี้ลงเป็นติดลบ 2% จากเดิมที่คาดว่าเป็นบวก 1-2% ส่วนแนวโน้มของปี 2558 ยังอยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลเพื่อจัดทำประมาณการ แต่หลักๆ ยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์การส่งออกที่ขณะนี้ประเมินว่าจะฟื้นตัวขึ้น เห็นได้จากประมาณการเศรษฐกิจโลกของสำนักต่างๆ ที่มองว่าเศรษฐกิจโลกปีหน้าจะเข้าสู่ภาวะฟื้นตัว แต่จะเป็นการฟื้นตัวที่ไม่หวือหวาเพราะประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐจะดูดีขึ้น แต่ยุโรปก็ยังคงฉุดเศรษฐกิจโลก จากอัตราการว่างงานล่าสุดที่ยังสูงกว่า 10%

อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกในปีหน้า จะต้องจับตาการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาว่าจะรุนแรงขึ้นหรือไม่ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างยุโรปกับรัสเซียในกรณียูเครน และความรุนแรงในตะวันออกกลางจะขยายวงกว้างหรือไม่ ถ้าปัจจัยเหล่านี้รุนแรงขึ้น ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในปีหน้า และเป็นตัวชี้วัดต่อเศรษฐกิจไทยว่าจะขยายตัวได้มากน้อยเพียงไร

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในปีหน้าเอกชนต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับปัจจัยลบทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งภาครัฐจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นรองรับใน 3 ส่วน คือ (1) เร่งรัดอัดฉีดงบ 3.6 แสนล้านบาท (2) การเปิดตลาดส่งออกใหม่ และ (3) ผลักดันการส่งออกสินค้าไปตลาดชายแดน