เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผย จีนซึ่งเป็นตลาดยางคอมปาวน์ใหญ่ที่สุดของไทย มีนโยบายปรับเปลี่ยนมาตรฐานยางคอมปาวน์ หวั่น ส่งผลกระทบด้านภาษีการส่งออก ด้านคณะทำงานพัฒนาสารสนเทศการเกษตรระดับประเทศ เตรียมศึกษาการนำไม้ยางมาแปรรูปเพื่อเพิ่มช่องทางในการเพิ่มรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกยาง

นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในฐานะประธานคณะทำงานพัฒนาสารสนเทศการเกษตรระดับประเทศ ถึงสถานการณ์ด้านการผลิตและการตลาดของสินค้าการเกษตรที่สำคัญของไทย เกี่ยวกับปัญหายางพาราที่เป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญ ซึ่งราคายางพาราที่เกษตรกรขายได้ ณ ไร่นาของไตรมาสที่ 3/2557มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาหรือไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดยางคอมปาวน์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยได้มีนโยบายปรับเปลี่ยนมาตรฐานยางคอมปาวน์ จากเดิมที่มีส่วนผสมของยางธรรมชาติไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 และมีเขม่าดำอีกร้อยละ 5 เป็นยางที่มีส่วนผสมของธรรมชาติไม่น้อยกว่าร้อยละ 88 และมีเขม่าดำอีกร้อยละ 12 เพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในประเทศจีนเอง

จากนโยบายดังกล่าว อาจจะส่งผลกระทบด้านภาษีการส่งออกของผู้ส่งออกยางคอมปาวน์ไทย ซึ่งเดิมผู้ส่งออกยางคอมปาวน์ได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีสำหรับยางคอมปาวน์ที่มีส่วนผสมของยางธรรมชาติไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ซึ่งหากผู้ส่งออกยางคอมปาวน์ของไทยไม่สามารถผลิตได้ตามมาตรฐานที่กำหนดจะมีผลให้ต้องเสียภาษีที่อัตรา 1,200 หยวนต่อตัน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ส่งออกยางคอมปาวน์ของไทยจะมีศักยภาพในการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดก็ตาม แต่ก็ทำให้เกิดความยุ่งยากและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และอาจเกิดการหยุดชะงักของการสั่งซื้อของตลาดจีน เนื่องจากผู้บริโภคภายในประเทศจีนไม่นิยมสูตรยางคอมปาวน์ดังกล่าว

"จากปัญหาดังกล่าว คณะทำงานฯ ได้เสนอให้มีการศึกษาการนำไม้ยางมาแปรรูปเพื่อเพิ่มช่องทางในการเพิ่มรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราไทย นอกเหนือจากนโยบายลดพื้นที่ปลูกยางพาราเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบตามมาตรการที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติเสนอ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และคาดว่าสถานการณ์ยางพาราจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น" รองเลขาฯ สศก. กล่าว