ECONOMICS

ไทยหารือเมียนมาร์ พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน
POSTED ON 16/10/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายสมเกียรติ อนุราช รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับหอการค้าและอุตสาหกรรมสหภาพเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2557 ที่ผ่านมา ว่า ทางหอการค้าไทยและหอการค้าเมียนมาร์ได้มีมติร่วมกันให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมไทยเมียนมาร์เขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้น เพื่อจัดทำแผนแม่บทที่จะใช้ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดให้เป็นเขตเศรษฐกิจที่ครบวงจร โดยเฉพาะการมองถึงความเป็นไปได้เรื่องกฎระเบียบร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย การเคลื่อนย้ายคน สินค้า เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 6-9 เดือน ในการจัดทำแผนแม่บทดังกล่าวสำเร็จ ก่อนจะนำเสนอ และใช้หารือกับรัฐบาลของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป

 

"จากการที่ได้หารือกับสภาพัฒน์ฯ แล้วเห็นว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษจะต้องมีหลายรูปแบบ คือ เป็นแหล่งการค้า เป็นเขตอุตสาหกรรม เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น ทั้งนี้ เห็นว่าแม่สอดเหมาะสมที่จะพัฒนาให้เป็นทั้งแหล่งการค้า การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมได้ จึงเตรียมส่วนนี้เข้าไปอยู่ในแผนแม่บทด้วย อีกทั้งแผนแม่บทดังกล่าวจะต้องเป็นการส่งเสริมและพัฒนาในเรื่องของการอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานของทั้งสองฝ่ายให้ครอบคลุม เพื่อเพิ่มการค้าการลงทุนตามแนวชายแดนด้วย" นายสมเกียรติ กล่าว

 

พร้อมกันนี้ในแผนแม่บทยังจะมีการเสนอให้รวม 3 อำเภอของจังหวัดตาก ได้แก่ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.พบพระ อยู่ในพื้นที่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเพื่อให้จังหวัดตากเป็นจังหวัดนำร่องของเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยด้วย ทั้งนี้ ในเบื้องต้นการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษยังไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร ทั้งในส่วนของสถานที่ตั้ง ผลประโยชน์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างหาข้อสรุปที่ชัดเจน ในขณะที่เมียนมาร์มีความชัดเจนเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลไทยมีนโยบายให้การสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยต้องสอดคล้องกับของประเทศเพื่อนบ้าน

 

ในการประชุมแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจไทย-เมียนมาร์ ยังได้หารือถึงความเหมาะและศักยภาพเชิงพื้นที่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งไทยมีการระบุที่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 3 จังหวัด คือ แม่สอด แม่ระมาด พบพระ จ.ตาก จ.กาญจนบุรี และ แม่สาย จ.เชียงราย ส่วนของเมียนมาร์ ได้แก่ เมียวดี ผาอัน และเมาะละแหม่ง นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงเรื่องโอกาสทางธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษ, การเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการค้าการลงทุนและการขนส่ง และความร่วมมือระหว่างกันในอนาคตอีกด้วย

 

"เบื้องต้นได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการค้าชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงการสร้างสะพานแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาการสร้างที่จะเชื่อมต่อไปยังเมียนมาร์ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศ" นายสมเกียรติ กล่าว