ECONOMICS

พาณิชย์ ยังคงเป้าส่งออกปีนี้ที่ 3.5% คาด ปีหน้าขยายตัว 4%
POSTED ON 26/09/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - ร.อ.สุวิพันธ์ ดิษยมณฑล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนผลักดันการส่งออกในปี 2558 ตามนโยบาย "พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ" รมว.พาณิชย์ ที่ตั้งเป้าหมายการส่งออกปี 2558 ไว้ว่าจะขยายตัว 4% โดยมีโครงการสำคัญที่จะดำเนินการประมาณ 400 กว่าโครงการ ทั้งโครงการที่จัดทำขึ้นมาใหม่ และการต่อยอดจากโครงการเดิมที่ได้ดำเนินการอยู่

 

ทั้งนี้ จะเน้นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าในตลาดอาเซียน เพื่อเพิ่มยอดการส่งออก รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทั้งการจัดงานไทยแลนด์วีค การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่คาดว่าจะช่วยเปิดโอกาสให้กับสินค้าไทย การร่วมมือกับผู้นำเข้า ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เพื่อสร้างการรู้จัก ยอมรับ และกระตุ้นการซื้อสินค้าไทย และการผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอาเซียน โดยกรมมีศูนย์ให้บริการใน 8 ประเทศ ที่นักธุรกิจสามารถเข้าไปขอใช้บริการได้

 

"กรมฯยังจะให้ความสำคัญกับการผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งเป็นสินค้าที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยมีแผนที่จะสร้างการยอมรับในสินค้าเกษตรและอาหารไทย ผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารที่สำคัญทั่วโลก และจัดงานแสดงสินค้าอาหารระดับนานาชาติในไทย หรืองานไทยเฟ็กซ์ รวมทั้งการร่วมมือกับร้านอาหารไทยในต่างประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นการบริโภค และโปรโมตภาพลักษณ์อาหารไทย ขณะเดียวกัน จะเร่งมอบตราสัญลักษณ์ไทยซีเล็กซ์ให้กับร้านอาหารไทยและอาหารไทยที่ได้มาตรฐานให้ได้เพิ่มมากขึ้น" ร.อ.สุวิพันธ์ กล่าว

 

ด้าน นางดวงกมล เจียมบุตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2557 นี้ จะมีการจัดประชุมทูตพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก จัดทำแผนกระตุ้นการส่งออกในปี 2558 ตามนโยบายของ รมว.พาณิชย์ โดยเบื้องต้นได้ให้ทูตพาณิชย์ศึกษาความต้องการในแต่ละรายตลาด ศึกษาคู่แข่ง และการมองหาลู่ทางรวมถึงโอกาสในการขยายตลาดใหม่ๆ ขณะที่เป้าหมายการส่งออกปี 2557 ยังคงเป้าไว้ที่ 3.5% ซึ่งเป็นเป้าหมายการทำงาน ส่วนในปี 2558 คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 4%

 

สำหรับกรณีที่กลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) จะตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี) สินค้าไทยใน 2558 นั้น เป็นเรื่องที่รู้กันมานานแล้ว จึงอยากให้ผู้ประกอบการมีการปรับตัว และพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งทางกรมฯ จึงจะมีการมุ่งส่งเสริมตราสัญลักษณ์ “ไทยแลนด์ ทรัสต์ มาร์ก” (THAILAND TRUST MARK) เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองด้านคุณภาพและมาตรฐาน โดยเฉพาะกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ผลกระทบทางสังคม รวมถึงสวัสดิภาพแรงงานที่ดีขึ้น

 

"ปัจจุบันมีสินค้าและบริการของไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ THAILAND TRUST MARK แล้วกว่า 400 รายการ และตั้งเป้าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปีนี้ โดยเชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมสินค้าไทยให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น รวมถึงจะช่วยส่งเสริมให้การส่งออกสินค้าดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้าส่งออกในกลุ่มอาหารที่แต่ละปีส่งออกเป็นมูลค่ากว่า 5.6 แสนล้านบาท ซึ่งตลาดส่งออกเป้าหมายจะยังคงเป็นตลาดหลัก เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ยุโรป จีน และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน" นางดวงกมล กล่าว