เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ในการประชุมของคณะกรรมการเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2557 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทย 52 ราย ซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่ยื่นขออนุญาตครั้งแรก 34 ราย ทั้งนี้ การอนุญาตทำให้คนต่างด้าวต้องนำเงินเข้ามาลงทุนในการประกอบธุรกิจรวมทั้งสิ้น 43,858 ล้านบาท และมีการจ้างงานคนไทย 20,820 คน โดยธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ได้แก่...

1. ธุรกิจบริการทางการเงินและบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม 35 ราย คิดเป็น 67% ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต มีเงินลงทุน 43,285 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริการธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบัตรเครดิต บริการแฟ็กเตอริ่ง บริการด้านการตลาด เป็นต้น ประเทศที่ได้รับอนุญาต คือ ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน เนเธอร์แลนด์ เกาหลี และออสเตรเลีย,

2. ธุรกิจนายหน้าตัวแทน 6 ราย  คิดเป็น 11% มีเงินลงทุน 522 ล้านบาท ได้แก่ การทำกิจการนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย และนายหน้าจัดหาตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าให้แก่บริษัทในเครือ ประเทศที่ได้รับอนุญาต คือ ญี่ปุ่น

3. ธุรกิจสำนักงานผู้แทน 5 ราย คิดเป็น 10% มีเงินลงทุน 15 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การผลิตการตลาด การลงทุน ตลอดจนความต้องการใช้สินค้าและบริการต่างๆ ในไทยให้สำนักงานใหญ่ทราบ ประเทศที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ ญี่ปุ่น

4. ธุรกิจค้าปลีก 5 ราย คิดเป็น 10% มีเงินลงทุน 31 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกสินค้าต่างๆ ประเทศที่ได้รับอนุญาต คือ ญี่ปุ่น มาเลเซีย

5. ธุรกิจค้าส่ง 1 ราย คิดเป็น 2% มีเงินลงทุน 5 ล้านบาท ได้แก่ การค้าส่งรถและเครื่องที่ใช้สำหรับทำความสะอาดพื้น ประเทศที่ได้รับอนุญาต คือ เยอรมนี        

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2557 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยแล้ว 313 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 58,077 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ปรากฏว่าจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้น 11% และเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 44,107 ล้านบาท