เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 8 เดือนของปี 2557 (มกราคม-สิงหาคม 2557) มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 886 โครงการ เงินลงทุนรวม 416,500 ล้านบาท ซึ่งมีโครงการใหม่ที่ยังไม่เคยลงทุนในไทยจำนวน 458 โครงการ หรือร้อยละ 52 ของจำนวนคำขอทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนรายใหม่เริ่มมีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

โดยในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 45,900 ล้านบาท นับว่าสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบรายเดือน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม 2557 ยกเว้นเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งมีเงินลงทุนสูงถึง 158,700 ล้านบาท เนื่องจากมีการยื่นขอรับส่งเสริมของกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 (อีโคคาร์ 2) จำนวน 10 ราย สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจ อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง จำนวน 181 โครงการ เงินลงทุน 190,600 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มบริการและสาธารณูปโภค 260 โครงการ เงินลงทุน 108,000 ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ FDI ในช่วง 8 เดือน (มกราคม-สิงหาคม 2557) พบว่า มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 550 โครงการ เงินลงทุนรวม 288,340 ล้านบาท โดยมูลค่าเงินลงทุนปรับลดลงร้อยละ 9 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีเงินลงทุน 316,247 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลดในอัตราที่น้อยลงเช่นเดียวกับภาพรวมการลงทุน

ทั้งนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นยังเป็นอันดับหนึ่งที่ยื่นขอรับส่งเสริม จำนวน 250 โครงการ มูลค่าลงทุน 100,100 ล้านบาท แม้จะมีมูลค่าลงทุนลดลงร้อยละ 51 เนื่องจากปริมาณความต้องการรถยนต์ในประเทศลดต่ำลง ขณะที่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจากคอมพิวเตอร์ไปสู่การผลิตโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตซึ่งไม่ต้องการใช้ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เป็นตัวเก็บข้อมูล และภาวะเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวช้า

โดยการลงทุนจากสหภาพยุโรปมาเป็นอันดับ 2 เงินลงทุน จำนวน 83 โครงการ เงินลงทุน 74,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 330 หรือ กว่า 3 เท่าตัว อันดับ 3 เป็นการลงทุนจากสหรัฐอเมริกา จำนวน 20 โครงการ เงินลงทุน 40,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 390 หรือเกือบ 4 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และอันดับ 4 เป็นการลงทุนจากเกาหลีใต้ จำนวน 30 โครงการ เงินลงทุนรวม 13,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 780 หรือกว่า 7 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่า 1,574 ล้านบาท