ECONOMICS

ส.อ.ท. เล็งขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนกับรัสเซีย
POSTED ON 27/08/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ฑูตพาณิชย์ประจำประเทศไทยได้นัดหมายหารือกับ ส.อ.ท. กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กรมปศุสัตว์ และกรมประมง โดยมาร่วมหารือในการเพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าอาหารจากประเทศไทย เพื่อทดแทนสินค้าอาหารจากสหภาพยุโรป ที่รัสเซียได้ออกมาตรการห้ามนำเข้าเป็นเวลา 1 ปี โดยสินค้าหลักๆ ที่จะนำเข้าจากไทยได้แก่ เนื้อหมู ไก่ ปลา กุ้ง ผักผลไม้ และอาหารกระป๋อง

 

"ที่ผ่านมาชาวรัสเซียมีความชื่นชอบอาหารไทยมากพอสมควร ผ่านทางนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยที่มีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 ซึ่งถือว่า เป็นโอกาสที่สำคัญของไทยในการส่งสินค้าเข้าไปเจาะตลาดรัสเซียที่มีประชากรกว่า 140 ล้านคน โดยที่สินค้าจากยุโรปเข้ามาแข่งขัน ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารของ สอท. ได้ตอบรับกับทูตพาณิชย์รัสเซียอย่างเต็มที่ ส่วนคู่แข่งที่สำคัญในภูมิภาคนี้ก็มีเพียงประเทศเวียดนาม แต่ทางรัสเซียก็ได้ย้ำว่ามีความต้องการนำเข้าอาหารจากประเทศไทยเป็นหลักก่อน เพราะมีมาตรฐานที่ไว้วางใจได้" นายเกรียงไกร กล่าว

          

นอกจากสินค้าอาหารแล้ว รัสเซียก็ยังให้ความสำคัญกับสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ ยางรถยนต์ และยางพาราจากไทย เนื่องจากรัสเซียได้ตั้งเป้าที่จะยกระดับขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของยุโรปรองจากประเทศเยอรมัน และเป็นอันดับ 1 ของยุโรปตะวันออก คาดว่า จะมียอดการผลิตรถยนต์กว่า 1 ล้านคันต่อปี จึงจำเป็นต้องขยายการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อรถยนต์อีกมาก ซึ่งก็ตรงกับศักยภาพการผลิตของไทยที่รองรับกับอุตสาหกรรมของรัสเซียได้ โดยในช่วงเดือนธ.ค.2556 ก็ได้นำร่องสั่งซื้อยาพาราแผ่นจากไทยมีมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท คาดว่า จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งจะช่วยยกระดับราคายางพาราในประเทศได้ส่วนหนึ่ง

          

นายเกรียงไกร ยังกล่าวด้วยว่า ไม่เพียงแต่ความร่วมมือทางการค้าเท่านั้น นักธุรกิจรัสเซียยังได้ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในไทย เพื่อเป็นประตูการเข้าเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) รวมทั้งยังสนใจเข้ามาลงทุนในระบบสาธารณูปโภคในไทย เช่น โครงการรถไฟฟ้า การวางท่อก๊าซ โครงการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งจำหน่ายอาวุธ น้ำมันดิบ และก๊าซให้กับไทย เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติอันดับ 1 ของโลก และส่งออกน้ำมันอันดัง 2 ของโลกรีองจากซาอุดิอาระเบีย

         

ทั้งนี้ ผลการเยือนรัสเซียในช่วงปลายเดือน ก.ค.2557 ที่ผ่านมา ประธานสภาธุรกิจรัสเซีย-ไทย และนักธุรกิจชั้นนำของรัสเซียก็ได้ให้การต้อนรับคณะนักธุรกิจไทยเป็นอย่างดี โดยมีผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่จะมาจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ยางพารา อาหาร และเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งผลจากการหารือได้มีการจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ประกอบการรัสเซีย และมีการสร้างเครือข่ายทางการค้าร่วมกัน และมั่นใจว่าจะมีการสั่งสินค้าตามมาอีกมาก และได้มีการลงนามเอ็มโอยูขยายความร่วมมือทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีเป้าหมายให้ในปี 2016 จะเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกันให้ได้ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อปี จากปัจจุบันที่มีมูลค่าการค้าประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี