เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นสพ.บุญเพ็ง สันติวัฒนธรรม นายกสมาคมผู้ผลิตและแปรรูปสุกรเพื่อการส่งออก เปิดเผยกับว่า ปัจจุบันไทยมีโรงงานแปรรูปสุกรเพื่อการส่งออกทั้งสิ้น 28 โรงงาน ตลาดหลักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น รองลงมาคือ ฮ่องกง ส่วนตลาดใหม่จะเป็นสิงคโปร์ ยอดส่งออกได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2554-2555 ยอดส่งออกเนื้อสุกรแปรรูปของไทยไปญี่ปุ่นเฉลี่ยที่ 1.5 หมื่นตันต่อปี แต่ในปี 2556 ส่งออกเพิ่มเป็น 1.66 หมื่นตัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 10%

สำหรับในปี 2557 ช่วง 6 เดือนแรก ส่งออกได้แล้วกว่า 7 พันตัน มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ส่วนขณะที่อีกหนึ่งตลาดหลักคือ ฮ่องกง ยังลุ่มๆ ดอนๆ เพราะอยู่ภายใต้กำกับของประเทศจีน ที่ผ่านมาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ เมื่อไทยส่งเนื้อสุกรไปยังฮ่องกงจำนวนมาก จีนซึ่งมีโรงเชือดและชำแหละอยู่ติดกับฮ่องกง จะส่งสินค้าเข้ามาตีตลาด ทำให้ไทยต้องหยุดเพราะต้นทุนสูงกว่า โดยในปีที่ผ่านมาไทยส่งเนื้อสุกรแช่เย็นแช่เข็งไปฮ่องกงประมาณ 1.2 พันตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 19% ส่วนปีนี้ส่งไปแล้ว 400 กว่าตัน ยังไม่สูงมากนัก โดยคู่แข่งของไทยในตลาดฮ่องกงจะเป็นสินค้าจากยุโรป และออสเตรเลีย

"ครึ่งปีหลังมองว่าการส่งออกสินค้าสุกรยังสดใส ห่วงแต่การผลิตไม่เพียงพอโดยเฉพาะชิ้นส่วนบางช่วงขาดแคลน  อย่างไรก็ดีอยากให้เกษตรกรหันมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าให้มากขึ้น ดีกว่าขายสุกรมีชีวิตให้กับเพื่อนบ้าน ที่เปรียบเสมือนเราไปเพิ่มแขนขาให้กับเพื่อนบ้าน" นสพ.บุญเพ็ง กล่าว

สอดคล้องกับ นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร ที่เผยถึงผลการดำเนินงานของเครือในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 ว่ามียอดขายแตะ 4 หมื่นล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 17-18 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้คาดการณ์ว่าภาพรวมทั้งปีนี้ยอดขายของเครือจะขยายตัวสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8.7 หมื่นล้านบาท ขยายตัวที่ 15% จากปี 2556 มียอดขายรวมอยู่ที่  7.68 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ยอดขายที่เพิ่มขึ้นมีปัจจัยจากราคาไก่เนื้อ สุกร และไข่ไก่ ปรับราคาดีขึ้น ขณะที่ในเดือนที่เหลือของปีนี้ มองว่าไม่มีปัจจัยลบที่น่ากังวล เนื่องจากตลาดส่งออกดี ตลาดในประเทศก็ดีเช่นเดียวกัน

"ในจำนวนยอดขาย 4 หมื่นล้านบาทในครึ่งแรกของเครือ กลุ่มสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศจำนวน 64 สาขา ทำยอดขายได้ 1.6 หมื่นล้านบาทมีสัดส่วนสูงสุด รองลงมาเป็นกลุ่มไก่เนื้อ อาหารสัตว์ และสุกร ตามลำดับ ส่วนปีหน้ายังมีการลงทุนต่อเนื่องตั้งแต่ระดับ 300-หลักพันล้าน ซึ่งอยู่ในแผนงานยุทธศาสตร์ 10 ปี แผนการลงทุนของเครือ" นายวสิษฐ กล่าว

ด้าน นายมาโนช วีระกุล นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวถึงสถานการณ์ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในครึ่งแรกของปีนี้จะสูงกว่าในครึ่งปีหลัง เพราะในครึ่งแรกยังมีการระบายสต็อกมันของรัฐบาลออกมา แต่ครึ่งหลังของมีน้อย ประกอบกับผลผลิตช่วงนี้ออกมาน้อย เพราะฝนตก เกษตรกรไม่สามารถขุดหัวมันสำปะหลังได้ ขณะเดียวกันช่วงนี้เพื่อนบ้านผลผลิตไม่ดี จึงเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยที่จะส่งออก