ECONOMICS

หอการค้า เล็งเสนอ สนช.แก้กฎหมายการค้า เอื้อเอกชนทำธุรกิจ
POSTED ON 07/08/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดแรก (วันที่ 7 ส.ค.2557) เบื้องต้นน่าจะเป็นการประชุมเพื่อเลือกประธานและรองประธาน สนช.ก่อน แต่หลังจากนั้นภาคเอกชนเตรียมจะผลักดันกฎหมายที่ยังค้างอยู่ทั้ง 139 ฉบับ ในจำนวนนี้มีกฎหมายที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้ทันสมัยและมีความเป็นสากลมากขึ้นจำนวน 20 กว่าฉบับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชนในการทำธุรกิจเพื่อให้ทันต่อการแข่งขันทางการค้าและการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ

 

ทั้งนี้ กฎหมายที่เกี่ยวกับการค้าและการประกอบธุรกิจที่ภาคเอกชนเห็นว่าจำเป็นต้องเร่งแก้ไข ได้แก่ กฎหมายศุลกากร ทั้งในเรื่องของการขนส่งสินค้าข้ามแดนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) การตีความพิกัดสินค้าที่ไม่ตรงกัน จึงเห็นว่าควรจะมีคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อกำหนดและตีความเรื่องนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีกฎหมายผังเมืองอีกเรื่องที่ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ทันสมัย

 

นายอิสระกล่าวว่า หอการค้าไทย ร่วมกับมูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย (ไอเมท) จัดทำโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ต้องการไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) แต่ยังขาดความเข้าใจ รวมทั้งขาดแผนรองรับความเสี่ยงในการทำธุรกิจ โครงการนี้จะให้บริษัทใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้แก่เอสเอ็มอีที่สนใจออกไปลงทุนต่างประเทศ

 

เบื้องต้น ประเทศแรกที่จะให้การส่งเสริม คือ เวียดนาม เนื่องจากปัจจุบันเวียดนามมีศักยภาพสูง มีจำนวนประชากรกว่า 92 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน และยังมีกำลังซื้อสูงขึ้น อีกทั้งรัฐบาลเวียดนามจะมีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 22% ลงเหลือ 20% ในปี 2560 รวมทั้งสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้การส่งคืนรายได้และเงินปันผลกลับประเทศของผู้ลงทุนสามารถทำได้สะดวก

 

ปัจจุบัน มีบริษัทขนาดใหญ่ที่พร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้รวม 14 บริษัท เช่น บมจ.ปตท., บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร, บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ และเครือเอสซีจี เป็นต้น เบื้องต้นตั้งเป้าจะส่งเสริมเอสเอ็มอี 42 รายได้ลงทุน โดยพี่เลี้ยง 1 ราย ดูแลเอสเอ็มอี 3 ราย

 

นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานมูลนิธิไอเมท และประธานโครงการการนำธุรกิจไทยไปลงทุนในเวียดนาม กล่าวว่า นักธุรกิจไทยจำเป็นต้องขยายการลงทุนออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้น ซึ่งหอการค้าไทยและไอเมท ได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยที่ต้องการขยายการลงทุน

 

ด้าน นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า วันที่ 18 ส.ค.2557 นี้ จะหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังจากการหารือร่วมกันเมื่อเดือน ก.ค. ได้เห็นชอบตั้งคณะทำงานร่วมกัน 4 คณะ ได้แก่ (1) คณะทำงานการปรับปรุงการอนุญาตของกระทรวงอุตสาหกรรม (2) คณะทำงานกำกับโรงงานให้ปฏิบัติตามกฎหมาย (3) กระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และ (4) การต่อต้านคอร์รัปชั่น