ECONOMICS

อุตฯ เร่งเครื่องเตรียมพร้อมแผนรับ AEC
POSTED ON 05/08/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มีการสั่งการทุกหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เตรียมความพร้อมและแผนปฏิบัติการเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ดังนี้  

 

การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความตกลงว่าด้วยการปรับกฎระเบียบและการควบคุมบริภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน (ความตกลง AHEEERR) ที่มี 3 เรื่องย่อย ได้แก่

 

(1) การปรับมาตรฐาน ซึ่ง สมอ.มีกฎหมายกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน หรือมาตรฐานบังคับที่อยู่ในขอบข่ายของความตกลง AHEEERR จำนวน 31 เรื่อง ปัจจุบันได้ปรับมาตรฐาน มอก. ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่อาเซียนตกลงจะใช้ร่วมกันไปแล้ว 22 เรื่อง และอยู่ในระหว่างดำเนินการอีก 9 เรื่อง ได้แก่ หลอดไฟฟ้า ฟิวส์ก้ามปู บัลลาสต์ พัดลม หลอดฟลูออเรสเซนต์ เครื่องซักผ้า กระติกน้ำร้อน เตาไฟฟ้า และเครื่องอบผ้า

 

(2) หน่วยรับรอง สมอ.ได้รายงานว่า จะจัดสัมมนาหน่วยรับรองภายใต้ความตกลง AHEEERR ในวันที่ 6 สิงหาคม 2557 นี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะส่งเสริมหน่วยรับรองให้ขยายขอบข่ายการเป็นหน่วยรับรองตามมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับเพิ่มขึ้น

 

(3) ขณะนี้ห้องปฏิบัติการทดสอบของประเทศไทยได้รับการขึ้นทะเบียน ภายใต้ข้อตกลงการยอมรับร่วมในผลการทดสอบรับรอง มีทั้งสิ้น 6 แห่ง โดยเป็นของภาคเอกชน 4 แห่ง และหน่วยงานของรัฐ 2 แห่ง

 

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการแก้ไขและจัดทำคู่มือผู้ซื้อที่รวบรวมรายชื่อผู้ได้รับการรับรอง มอก.ทุกผลิตภัณฑ์ สำหรับผู้บริโภค หน่วยงานภาคเอกชนและภาครัฐเพื่อประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบฯ พัสดุปี 2535 จะต้องเลือกรายที่มี มอก.ก่อนเท่านั้น เว้นแต่ผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้กำหนด มอก. จากการที่ระบบคู่มือผู้ซื้อบนอินเตอร์เน็ตเกิดขัดข้องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 เป็นต้นมา

 

ปัจจุบันได้แก้ไขปัญหาและทดลองเปิดระบบแล้วที่ http://61.19.242.20 เพื่อให้ผู้ใช้ภายนอกสามารถเข้าไปใช้บริการสืบค้นข้อมูลได้อีกครั้ง และคาดว่าจะสามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบในเดือนกันยายนนี้

 

รวมถึงระบบ National Single Window (NSW) ซึ่ง สมอ.อยู่ระหว่างประสานกรมศุลกากร เพื่อจัดทำข้อมูลที่จะเชื่อมโยงกันในการตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ได้รับใบอนุญาต และจะดำเนินการจัดจ้างเพื่อพัฒนาระบบ NSW ที่เชื่อมโยงข้อมูลร่วมกัน

 

ด้าน นายอุฤทธิ์ ศรีหนองโคตร เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า "สมอ.ได้ประชุมสรุปกรอบการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่น พิกัดศุลกากร รหัสสถิติผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวมถึงรหัสยกเว้นที่จะใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูล และได้ทำขอบเขตของงาน TOR โดยอยู่ระหว่างการลงนามในสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างโครงการพัฒนาระบบงานการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมศุลกากรผ่าน National Single Window ทั้งนี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ต่อผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการทำงาน ทรัพยากรค่าใช้จ่าย และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศทั้งการนำเข้าและส่งออก คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อน 15 กันยายน 2557"