เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ (ผบ.ทบ.) รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในงาน "การแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 2" ว่า คสช.มีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกอาหารไทยที่ยังคงให้การส่งเสริมนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก เพราะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาสานต่อโครงการ เพื่อให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักในสายตาโลก

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับสถาบันอาหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดงานประกวดเชฟโลก โดยเชิญเชฟชั้นนำระดับโลกมาปรุงอาหารกว่า 60 รายการ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมและชิมรสชาติอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนชาติใดในโลก

"คสช.ตระหนักดีว่าการเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน รวมถึงส่งเสริมภาพลักษณ์ในภาคธุรกิจร้านอาหารและการท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่องเป็นภารกิจสำคัญที่เชื่อมโยงกันกับภาคการผลิต ทั้งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม อีกทั้งยังส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีมาตรฐานการผลิตในระดับสากลเป็นที่ยอมรับทั้งประเทศคู่ค้าในด้านคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

ด้าน นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าว่า การจัดการครั้งนี้จะส่งเสริมให้วัตถุดิบและอาหารแปรรูปของไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งคาดว่าจะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารไทยทั้งวัตถุดิบและอาหารสำเร็จรูปส่งออกไปอาเซียน และประเทศจีนสูงมากขึ้นกว่าปี 2556 ที่ไทยส่งออกวัตถุดิบและอาหารแปรรูปไปตลาดเซียนได้กว่า 2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นวัตถุดิบ 60-70% และเป็นอาหารแปรรูป 30-40% คิดเป็นสัดส่วนการส่งออก 10% ของการส่งออกรวมในอาเซียน

"การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ถือเป็นโอกาสที่ไทยจะสามารถส่งออกอุตสาหกรรมอาหารได้อย่างน้อยเฉลี่ยสูงขึ้นอีกปีละ 10% โดยเฉพาะการส่งออกอาหารไทยไปจีนที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมาก เห็นได้จากก่อนหน้านี้ไทยส่งออกไปได้ปีละ 10,000 ล้านบาท ก็พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นปีละ 30,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา รวมถึงเจาะตลาดมาเลเซีย และเมียนมาร์ เนื่องจากเมียนมาร์กำลังอยู่ในช่วงเปิดประเทศ เพื่อเป็นการรักษาแชมป์ส่งออกอาหารไทย 1 ใน 10 ของโลก" นายเพ็ชร กล่าว

ด้าน นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอาหารส่งออกของไทยในปี 2557 จะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน โดยคาดว่าจะหดตัวเพียงร้อยละ 5 จากปีที่ผ่านมาหดตัวถึงร้อยละ 7.6 คิดเป็นมูลค่า 8 แสนล้านบาทเมื่อเทียบกับปี 2555 จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอาหารของไทยมีความได้เปรียบในเรื่องวัตถุดิบที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว ไม่สามารถส่งออกสินค้าให้กับกลุ่มประเทศผู้บริโภคได้ ทำให้กลุ่มประเทศผู้บริโภคหันมาซื้อวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์การส่งออกจากไทยมากขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มประเทศผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพ และประสบการณ์การส่งออกอุตสาหกรรมอาหารของไทย ทำให้เกิดความได้เปรียบจากประเทศคู่แข่ง อาทิ จีน และเวียดนาม รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารไทยยังมีทิศทางการพัฒนาในแง่ของการจัดการทรัพยากรน้ำ หรือ Water footprint ซึ่งเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อประเมินผลการใช้น้ำ การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำและมลภาวะต่างๆ รวมถึงโครงการ Carbon footprint ซึ่งเป็นแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมของโลก