ECONOMICS

หอการค้า ชี้ ส่งออกไทยในอาเซียนหดตัวลงเรื่อยๆ
POSTED ON 30/07/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายอัทธ์ พิศาลวานิช คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการประเมิน 4 ปี การค้าและการลงทุนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ช่วงปี 2553-2556 โดยพบว่าไทยเสียประโยชน์ทั้งด้านการค้าและการลงทุน

 

โดยด้านการค้า ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปอาเซียนลดลงต่อเนื่อง โดยปี 2553 มีมูลค่า 320,348 ล้านบาท ลดเหลือ 222,187 ล้านบาท ในปี 2554 ต่อมาปี 2555 ลดเหลือ 59,178 ล้านบาท และปี 2556 ติดลบ 8,428 ล้านบาท

 

"แม้ว่ามูลค่าการส่งออกของไทยจะยังอยู่ในอันดับ 3 แต่หากไปดูอัตราการขยายตัวจะพบว่าลดลงอย่างต่อเนื่อง จากอันดับ 1 ที่ขยายตัว 39.5% ในปี 2553 มาปี 2554 ขยายตัว 20.7% ปี 2555 ขยายตัว 3.3% แต่พอปี 2556 ขยายตัวลดลงเหลือ 1% ตกมาอยู่อันดับ 7" นายอัทธ์ กล่าว

 

สินค้าไทยที่ยังเป็นดาวเด่น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง เหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก เครื่องดื่มและยาสูบ ส่วนสินค้าดาวร่วง ได้แก่ ข้าว อาหารทะเลแปรรูป มันสำปะหลัง ยางพารา น้ำตาล รถยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น

 

ขณะที่ด้านการลงทุน ในแง่ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เข้ามาในอาเซียน พบว่า เข้าสิงคโปร์มากสุด 2.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาอินโดนีเซีย 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 3 มาเลเซีย 4.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ไทยอยู่อันดับ 4 มี 3.65 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

 

นายอัทธ์ กล่าวว่า (1) ไทยต้องปรับการทำการตลาดใหม่ โดยสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับและนิยมในอาเซียนอยู่แล้ว แต่ไม่มีการทำการตลาดอย่างจริงจัง และไม่สร้างแบรนด์สินค้าให้เกิดในอาเซียน (2) ไม่มีบริษัทไทยไปร่วมทุนทำเทรดดิ้ง กัมปะนี ในอาเซียนเลย ทำให้การส่งสินค้าไปขายจึงไม่เกิดขึ้น และ (3) ด้านการลงทุน ไทยต้องปรับวิธีการผลักดันเพื่อให้เอสเอ็มอีไปลงทุนได้มากขึ้นจากปัจจุบันที่มีแต่เฉพาะรายใหญ่