เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในงานสัมมนา "Thailand +1 Strategy and Opportunity for Japanese Companies" ว่า แนวโน้มการส่งเสริมการลงทุนช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากสถานการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่น โดยบีโอไอยังคงมูลค่าขอรับส่งเสริมลงทุนตามเป้าหมายเดิมที่ 7 แสนล้านบาท

ขณะที่การแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อขับเคลื่อนโครงการลงทุนต่างๆ ให้เดินหน้าต่อไปได้นั้น ส่งผลให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่น แต่อาจต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือน เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้อย่างเต็มที่ และเห็นการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ อาทิ มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การเร่งรัดอนุมติโครงการต่างๆ ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขอรับส่งเสริมแล้วกว่า 3 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาสถานการณ์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าอีกครั้งก่อนปรับประมาณการ

สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่มียอดขอรับส่งเสริมมากที่สุด คือ นักลงทุนญี่ปุ่นที่มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 50 ของนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด ซึ่งยังคงมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ และจากผลการสำรวจของทางการญี่ปุ่น พบว่า ร้อยละ 90 ของนักลงทุนยังยืนยันที่จะขยายฐานการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีความเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจไทยเป็นหลัก แม้สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู) จะต่อต้านไทยในประเด็นการค้ามนุษย์ สะท้อนได้จากมูลค่าการลงทุนของต่างชาติในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนญี่ปุ่นยังต้องการให้ทางการไทยแก้ไขกฎระเบียบ เพื่อให้การลงทุนมีความสะดวกมากขึ้น อาทิ การขอใบอนุญาตทำงาน และการขอวีซ่า ซึ่งบีโอไอได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด