ECONOMICS

สรรพสามิต เล็งเสนอคลัง 8.6 พันล้านบาท โปะรถคันแรก
POSTED ON 20/06/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้ทำเรื่องถึงกระทรวงการคลังเพื่อขอใช้เงินคงคลังจำนวน 8.6 พันล้านบาท มาจ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิในโครงการรถคันแรก ซึ่งมีการตั้งงบประมาณปี 2557 ไว้ไม่เพียงพอ เพื่อทำให้การจ่ายเงินกับผู้ใช้สิทธิได้อย่างต่อเนื่องไม่เกิดการสะดุด

 

สำหรับแนวทางดังกล่าว ทางสำนักงบประมาณเป็นผู้เสนอแนวคิดให้ใช้เงินคงคลังคลังแทนการขอใช้งบกลาง เพราะจะมีความคล่องตัวกว่า โดยเงินที่ขาดจริงมีอยู่ประมาณกว่า 5 พันล้านบาท แต่ทางสำนักงบประมาณให้ขอเงินคงคลังครั้งเดียวเลย 8.6 พันล้านบาท เพื่อให้นำเงินประมาณกว่า 3 พันล้านบาท มาใช้คืนงบกลางที่กรมสรรพสามิตยืมไปก่อนหน้านี้

 

นายสมชายกล่าวว่า การใช้เงินคงคลังเป็นอำนาจของนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ รมว.การคลัง สามารถอนุมัติได้เลย โดยการทำงบประมาณปีต่อไปก็ต้องตั้งเงินมาใช้คืนเงินคงคลัง แต่การใช้งบกลางต้องทำเรื่องผ่านสำนักงบประมาณ และให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานาน และได้เงินมาไม่ทันจ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิในเดือน ส.ค.-ก.ย. ที่เป็นช่วงท้ายของงบประมาณปี 2557

 

สำหรับการดำเนินการจ่ายเงินให้ผู้ใช้สิทธิขอคืนภาษีในโครงการรถคันแรกนั้น ยังมีประชาชนอีกประมาณ 1 แสนราย ยังไม่มารับมอบรถยนต์ กรมจึงได้ขอให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ เร่งทำการประชาสัมพันธ์กับผู้จองรถให้มารับรถยนต์ภายในวันที่ 31 ก.ย.นี้ เพื่อที่จะปิดโครงการรถคันแรก อย่างไรก็ตาม กรมสรรพสามิตไม่สามารถไปตัดสิทธิกับผู้ยังไม่มาใช้สิทธิได้ เพราะตอนออกโครงการไม่ได้ระบุว่าต้องรับรถภายในปีไหน

 

ด้าน นายวิชัย จิราธิยุต ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า การผลิตรถยนต์ในปี 2557 จะปรับตัวลดลงประมาณ 5-10% จากเป้าหมายการผลิตที่ 2.45 ล้านคัน เนื่องจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการชะลอการผลิต จากความกังวลต่อปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจ, ปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ และการสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรก

 

สำหรับครึ่งปีหลังนั้นคาดว่าการผลิตรถยนต์จะฟื้นตัวดีขึ้น โดยกว่า 50% ของการผลิตจะเป็นการส่งออก ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการรอดูสถานการณ์ในสิ้นเดือน มิ.ย.2557 นี้ก่อนที่จะเร่งกำลังการผลิตอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2560 จะผลิตรถยนต์ได้ถึง 3 ล้านคัน

 

อย่างไรก็ตาม ทางสถาบันยานยนต์ต้องการให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) เร่งพิจารณาให้มีการดำเนินโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ 2 โดยเร็ว เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เป็นประเทศชั้นนำด้านยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน