เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) เปิดเผยถึงผลการเดินทางไปโรดโชว์ที่สิงคโปร์และฮ่องกงร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มีความมั่นใจในเศรษฐกิจไทย แต่ยังมีข้อสอบถามเกี่ยวกับความเข้มแข็งของการฟื้นตัวในระยะต่อไป ซึ่ง ธปท.ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยไม่มีปัญหา โดยเฉพาะในแง่การฟื้นตัว หลังตัวชี้วัดเดือน มี.ค.2557 เริ่มเห็นการทรงตัว และเดือน เม.ย.2557 ที่ผ่านมาไม่ปรับตัวลดลงแล้ว

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาเรื่องภาคการคลังที่เดินเครื่องได้ไม่เต็มที่ และความเชื่อมั่นภาคเอกชนไม่ดี แต่ขณะนี้การใช้จ่ายภาคการคลังจะกลับเป็นปกติ และความเชื่อมั่นภาคเอกชนมีสัญญาณการฟื้นตัวแล้ว ดังนั้น จึงมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นแน่

ทั้งนี้ สิ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ คือ การใช้จ่ายภาครัฐที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการลงทุนภาคเอกชน พร้อมกับการส่งออกที่ยังอยู่ในทิศทางดีขึ้น ส่วนการบริโภคภาคเอกชนน่าจะดีขึ้น แต่อาจฟื้นแบบไม่แรงนัก เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายอยู่ โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้เห็นว่ายอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยหดตัว แตกต่างจากยอดขายสินค้าจำเป็นที่ขยายตัวได้อย่างค่อนข้างต่อเนื่อง   

ด้านศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ในการประชุมในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ และมองว่ามีโอกาสที่จะคงดอกเบี้ยยาวไปถึงสิ้นปี เพื่อประคับประคองการขยายตัวของเศรษฐกิจ พร้อมทั้งมองว่าการจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงคงไม่เหมาะ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มขึ้น

ขณะที่สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่ส่งสัญญาณคลี่คลาย และโรดแม็พด้านเศรษฐกิจและแนวนโยบายเร่งดำเนินการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นับว่าเป็นการช่วยปลดล็อกปัญหาการใช้จ่ายภาครัฐ นำพาเศรษฐกิจไทยให้มีความหวังขึ้นอีกครั้ง จากเดิมที่ศูนย์ฯ คาดว่าปี 2557 จะขยายตัวได้เพียง 2.0% อาจจะมีโอกาสเห็นในระดับ 2.5% ได้