ECONOMICS

การเมืองเคลียร์เร็ว เชื่อส่งออกโตตามเป้า 5%
POSTED ON 21/05/2557


เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นางอัมพวัน พิชาลัย ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เปิดเผยว่า มีการเตรียมประชุมหารือระหว่างผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) 64 แห่งทั่วโลก ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกและมาตรการเร่งรัดการส่งออกในปี 2557 และปี 2558 หลังจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2557 ได้มีการประชุมหารือกันเป็นรายภูมิภาค เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกันระหว่างทูตพาณิชย์ไปแล้ว

 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่าการส่งออกปีนี้จะยังคงขยายตัวเป็นบวก เพราะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าได้ฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาดหลัก อย่างสหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น รวมถึงอาเซียน ทำให้การส่งออกจะเป็นแรงขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ในช่วงที่การเมืองยังมีปัญหายืดเยื้อ และเบื้องต้นทูตพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังคงเป้าหมายการส่งออกปีนี้ที่ 5% ตามเป้าที่ตั้งไว้

 

ด้าน นายสุภัฒ สงวนดีกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโอซากา ญี่ปุ่น กล่าวว่า การเมืองไทยมีผลต่อความเชื่อมั่นของคู่ค้าในญี่ปุ่น ทำให้คู้ค้ามีการติดตามข้อมูลข่าวสารโดยตลอด แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยมั่นใจว่าการส่งออกไปญี่ปุ่นจะขยายตัวเป็นบวกประมาณ 2% หรือมูลค่า 2.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัวติดลบ

 

นายชูลิต สถาวร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร กล่าวว่า เศรษฐกิจประเทศในยุโรปเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะเยอรมนี อังกฤษ ที่ฟื้นตัวชัดเจน แต่ฝรั่งเศสและอิตาลีเพิ่งเริ่มฟื้นตัว ยังต้องจับตาดูว่าจะฟื้นยั่งยืนหรือไม่ แต่ภาพรวมเชื่อว่าการส่งออกไปอียูจะยังโตได้ 5% ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วง ก็คือ เรื่องการตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) อาจจะทำให้ให้การส่งออกสินค้าไทยลดลง โดยเฉพาะอาหารทะเลและไก่

 

นางบุณิกา แจ่มใส ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเซียงไฮ้ กล่าวว่า ผู้นำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมีความกังวลในสถานการณ์การเมืองของไทยที่ยังไม่ยุติ และยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจแล้ว จึงทำให้ผู้ค้ามีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าการส่งออกของไทยไปจีนน่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ในช่วงที่เหลือของปี แม้ว่า 3 เดือนที่ผ่านมาจะติดลบไป 0.2% เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง