เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในไตรมาส 1/2557 หดตัว 0.8% ส่งผลให้ช่วง 9 เดือนที่เหลือของปีนี้ มูลค่าการส่งออกจะต้องสูงกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน การส่งออกทั้งปีจึงจะเป็นไปตามเป้าหมายเติบโต 4.5%

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปีก่อน จากสถานการณ์การเมืองที่ยังยืดเยื้อ ทำให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจระมัดระวังการบริโภคและการลงทุน เพื่อรอดูรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐทำได้จำกัด โดยเฉพาะงบลงทุน ส่งผลให้การบริโภคในไตรมาสแรกหดตัว 1.8%

อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่ยังขอดูตัวเลขเศรษฐกิจในเดือน เม.ย.อีกครั้ง ว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ดีแค่ไหน หากจีดีพียังคงทรงตัวต่อไปเรื่อยๆ เป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น และจะมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในไตรมาสสุดท้ายของปี ตามสถานการณ์การเมืองที่คาดว่าจะมีความชัดเจนจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกในไตรมาสแรก มีมูลค่า 56,211 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1% จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกขยายตัวได้เพียง 3.6% อัตราแลกเปลี่ยนยังคงมีความผันผวน ต้นทุนด้านพลังงานปรับสูงขึ้น จึงได้ปรับลดเป้าการส่งออกทั้งปีลง จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 5% เหลือ 3% โดยยอมรับว่าการส่งออกที่ชะลอตัวน่าจะเป็นจุดต่ำสุด และคาดว่าในไตรมาสต่อไปภาพรวมจะกลับมาฟื้นตัวมากขึ้น

นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน สรท. กล่าวว่า หากจะให้การส่งออกของไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 5% จะต้องส่งออกได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยอมรับว่าอาจทำได้ยาก และไตรมาส 2 อาจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3% ถ้าหากการเมืองไม่เกิดปัญหารุนแรงจนกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ ซึ่งกังวลว่าจะเกิดปัญหาการเมืองรุนแรงขึ้นในเดือน พ.ค. และกระทบต่อเป้าการส่งออกได้