เศรษฐกิจอุตสาหกรรม - นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2557 ที่ผ่านมา บริษัท เจแปน เครดิต เรตติ้ง เอเจนซี (เจซีอาร์) ของญี่ปุ่น ประกาศรายงานเกี่ยวกับผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิต) ของประเทศไทยออกมา โดยได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ที่ระดับ A- และอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท ที่ระดับ A อย่างไรก็ดี เจอาร์ซีปรับแนวโน้มความน่าเชื่อถือเป็นลบ (Negative Outlook) จากเดิมอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้อ โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในไตรมาส 4/2556 จนทำให้อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงลดลงอย่างเห็นได้ชัด มาอยู่ที่ 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และส่งผลให้จีดีพีชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 2.9% ในปี 2556 จาก 6.5% ในปี 2555 แต่โชคดีที่ไทยมีสถานะทางการคลังที่แข็งแกร่ง ระบบธนาคารที่มีเสถียรภาพ ทำให้ไทยแทบไม่มีโอกาสที่จะก้าวเข้าสู่วิกฤตการณ์ทางการเงิน

อย่างไรก็ดี ความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้ออาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต และหากการเมืองยังคงยืดเยื้อต่อไปในภาวะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดยังคงติดลบ อาจทำให้เกิดการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศ นอกจากนี้ มีแนวโน้มว่าการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะล่าช้าออกไป เมื่อเจซีอาร์นำสถานการณ์ดังกล่าวมาประกอบการพิจารณา จึงตัดสินใจปรับแนวโน้มความน่าเชื่อถือจากที่มีเสถียรภาพมาเป็นลบ โดยจะเฝ้าติดตามพัฒนาการในอนาคตของสถานการณ์ทางการเมือง รวมทั้งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจ และจะดำเนินการเกี่ยวกับอันดับความน่าเชื่อถือของไทยตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป หากข้อกังวลดังกล่าวข้างต้นกลายเป็นจริง