BUSINESS

บางกอกชีท เม็ททัล เล็งขยายตลาดอาเซียน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้พันล้านบาท
POSTED ON 03/03/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการฝ่ายการผลิต บริษัท บางกอกชีท เม็ททัล จำกัด (BSM) ผู้ผลิตรางเหล็กและท่อร้อยสายไฟฟ้า เปิดเผยว่า ในปี 2557 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมจะเติบโตประมาณ 20-30% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท จากปี 2556 มีรายได้รวมประมาณ 860 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และเติบโตกว่าปี 2555 ประมาณ 20%

 

โดยปีนี้บริษัทฯ มีแผนปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเร่งสร้างรายได้สินค้าบางประเภทที่ทำรายได้น้อย โดยกลยุทธ์หนึ่งคือการร่วมธุรกิจกับพันธมิตรต่างชาติ ที่ผ่านมาได้เจรจากับนักลงทุนญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่เป็น SMEs ที่ต้องการใช้สินค้าของบริษัท และได้เซ็นสัญญาร่วมทุนไปแล้วบางส่วน คาดว่าอีก 70% จะตัดสินใจร่วมงานกันในปีนี้ พร้อมเจรจารายใหม่เพิ่ม

 

ปัจจุบันบริษัทฯ มีธุรกิจอยู่ 6 หมวด ได้แก่ (1) รางเหล็กและท่อร้อยสายไฟฟ้า (2) ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้าและตู้โลหะ (3) แผงควบคุมไฟฟ้าและโคมไฟฟ้า (4) โลหะเชื่อมประกอบ (5) เครื่องมือ เครื่องจักรกล และอุปกรณ์ และ (6) ชิ้นส่วนโลหะ โดยสินค้าสองกลุ่มแรกทำรายได้สูงถึง 60-70% ส่วนสินค้าสี่กลุ่มหลังทำรายได้ประมาณ 30-40%

 

นายธีรวัต กล่าวว่า "ปีนี้ตั้งใจจะเพิ่มกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าหมวดที่ 4 ถึง 6 ให้มากขึ้น โดยตั้งใจเพิ่มยอดของกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวให้ขึ้นมาอยู่ในระดับ 50% เมื่อเทียบกับอัตราส่วนรายได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทฯ จะลดเป้าสองกลุ่มแรก แต่เราจะต้องดันสินค้า 4 หมวดกลุ่มหลังให้แข่งขันได้"

 

"จากการศึกษาตลาดในอาเซียน เราพบว่ายังมีธุรกิจที่จะเกิดใหม่อีกหลายประเภท เช่น โครงหมู่บ้านจัดสรรในหลายๆ ประเทศ ระบบสื่อสารในเมียนมาร์ กัมพูชา เวียดนามที่ค่อนข้างจะเติบโตมาก รวมไปถึงระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของหลายๆ ประเทศด้วย ซึ่งมองเป็นโอกาส ถ้ามีพาร์ตเนอร์ในประเทศต่างๆ ที่ประมูลงานได้แล้วมาจ้างเราทำ เป็นช่องทางหนึ่งที่จะพัฒนาร่วมกับพันธมิตร ก้าวไปด้วยกัน ขณะนี้เรามีการรับงานลักษณะนี้บ้างแล้ว แต่ถ้ามีโอกาสในอนาคตอาจจะมีการเข้าไปลงทุนเปิดสาขา หรือไปเปิดบริษัทที่นั่นเลย" นายธีรวัต กล่าว

 

โดยตลาดที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูงในอนาคตอย่างเช่นอาเซียน บริษัทฯ ให้ความสนใจ และพร้อมเข้าไปลงทุน ถ้ามีโอกาส เพียงแต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ต้องศึกษาตลาดอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะพื้นที่จะเกิดการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคของรัฐบาล โครงการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โครงการเกี่ยวกับระบบโทรคมนาคมและสื่อสารมวลชน และโครงการเกี่ยวกับภาคการเกษตร เป็นต้น ถือเป็นโอกาสที่บริษัทฯ จะได้เข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน โดยปัจจุบันบริษัทได้ทำการสำรวจตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว มาเลเซีย และเวียดนาม

 

นอกจากนี้ ยังมีเมียนมาร์เป็นประเทศที่มีความเติบโตด้านเศรษฐกิจและการค้าอย่างรวดเร็วอีกประเทศหนึ่งที่น่าสนใจมากเนื่องจากเป็นประเทศที่ปิดตัวเองไปนานจะมีการหลั่งไหลของความเจริญสู่เมียนมาร์มาก ทำให้ความต้องการในการจับจ่ายของชาวเมียนมาร์สูง ดังนั้น จึงเป็นประเทศที่บางกอกชีท เม็ททัล ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

 

สำหรับความคืบหน้าของการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนแต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และเตรียมดำเนินการแปลงสภาพเป็นมหาชน หลังจากนั้นต้องเตรียมความพร้อมต่างๆ เพื่อรอยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อกระจายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2557

 

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัทเพียงเล็กน้อย เนื่องจากโรงงานอยู่นอกกรุงเทพมหานคร และลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มที่มีสัญญาแน่นอนอยู่แล้ว แต่มีบางโครงการของรัฐที่ต้องรอรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินโครงการเท่านั้น