ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนธุรกิจที่บริษัทแม่กำหนดทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้กรอบการลงทุน 4 ปี ตั้งแต่ปี 2554-2557 มูลค่าการลงทุนกว่า 30 ล้านล้านบาท ที่เน้นให้ความสำคัญกับการจัดการพลังงานที่มีปริมาณลดลงให้การใช้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้นโยบาย 3 ด้าน คือ

(1) การขนส่งคนและสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (Smart Mobility) การใช้พลังงานจะต้องปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง และเชลล์ได้ต่อยอดพัฒนาในแง่ของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาออกสู่ตลาด เช่น เชลล์ ฟิวเซฟ ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์และลดเขม่า น้ำมัน 1 ถังสามารถวิ่งได้ระยะไกลมากขึ้น รวมถึงยังลงทุนพัฒนาเอทานอลร่วมกับบริษัท โคซาน ประเทศบราซิล ที่เชลล์จะพัฒนาสถานีบริการและด้านโลจิสติกส์ ในขณะที่โคซานดำเนินการปลูกอ้อย ซึ่งเอทานอลที่อยู่ระหว่างพัฒนานี้จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงร้อยละ 20-30

(2) ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น (Smart Infrastructure) และเชลล์ได้ทดลองสร้างแบบจำลองของการใช้พลังงานในอนาคตไว้ 2 รูปแบบ คือ ประเทศที่รัฐเป็นผู้กำหนดนโยบายด้านพลังงานจะมีความพยายามนำเข้าพลังงานมากขึ้น ในขณะที่ประเทศที่สังคมหรือประชาชนเป็นผู้ร่วมกำหนดนโยบายพลังงาน จะมีการสร้างบรรยากาศให้นักลงทุนเป็นผู้ผลักดันการเปลี่ยนแปลง จะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเร็ว รัฐกำหนดนโยบายน้อยลง สังคมเปิดกว้างมากขึ้น มีการเชื่อมโยงกับทั่วโลกด้วยระบบเทคโนโลยี แต่การขยายตัวที่เร็วนั้นการใช้พลังงานจะสูงกว่ารูปแบบที่รัฐกำหนดนโยบาย

(3) ส่งเสริมการประหยัดพลังงาน (Smarter Use) จัดโครงการเพื่อต่อยอดเชิงนวัตกรรม เช่น โครงการเชลล์ อีโค มาราธอน ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาร่วมประดิษฐ์รถยนต์ต้นแบบ และรถยนต์แห่งอนาคตที่เน้นการประหยัดพลังงาน

นายอัษฎากล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจในไทยในปี 2556 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในปีนี้ยังคงพัฒนาสถานีบริการน้ำมันต่อเนื่องจากแผนเดิมในปี 2556 ที่มีการนำร่องพัฒนาไปแล้วบางส่วน โดยตั้งเป้ายกระดับสถานีบริการที่มีอยู่รวม 500 กว่าแห่งทั่วประเทศให้ได้มาตรฐานมากขึ้น และบางส่วนจะลงทุนสร้างสถานีบริการน้ำมันแห่งใหม่เพิ่มเติม ที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท และยังมีการลงทุนขยายโรงงานผลิตน้ำมันเครื่องเพิ่มเติมอีก 1 เฟส สำหรับการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในประเทศไทยนั้น ขณะนี้ยังไม่มีแผนลงทุนที่ชัดเจน เนื่องจากต้องพิจารณานโยบายด้านพลังงานและสถานการณ์ทางการเมืองประกอบด้วย

"ทั้งนี้เชลล์ยังให้ความสนใจกับทุก ๆ โอกาสของธุรกิจที่จะช่วยสนับสนุนด้านพลังงานให้กับประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายภาครัฐก็เป็นปัจจัยสำคัญที่เชลล์คำนึงถึง เพื่อให้ตอบสนองความต้องการทางด้านพลังงานของประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน" นายอัษฎากล่าว