ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า แผนการลงทุนระยะสั้น 1-3 ปี (ปี 2557-2559) ไทยออยล์จะใช้งบลงทุนในการขยายกิจการทั้งในและต่างประเทศ ปีละ 300-500 ล้านเหรียญสหรัฐ อาทิ โครงการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันเพื่อขยายกำลังการผลิตในเมียนมาร์ 2 โดยแต่ละแห่งมีกำลังการกลั่นประมาณ 10,000 บาร์เรลต่อวัน, โครงการศึกษาความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์ เพื่อร่วมทุนบริษัท เปอร์ตามิน่า จำกัด ของอินโดนีเซีย ในโครงการผลิตแวกซ์ ซึ่งเป็นการผลิตสารสำหรับการทำผ้าบาติก ยางรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ ยาขัดรองเท้า เทียนไข และการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมัน ที่เมืองยอร์คจาการ์ตา

สำหรับประเทศไทยจะมีการลงทุนโครงการผลิตสารแอลเอบีแห่งแรกในประเทศไทย โดยจะร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปานี จำกัด ของญี่ปุ่น เพื่อผลิตแอลเอบีครบวงจรแห่งแรกของอาเซียน จะเริ่มผลิตได้ในปี 2558 และเป็นการจำหน่ายในประเทศ 40% ส่งออกในอาเซียน 60% ทำให้ประเทศไทยยกเลิกการนำเข้าแอลเอบีจากต่างประเทศอย่างถาวร หรือลดรายจ่ายจากการนำเข้าปีละ 4,000 ล้านบาท และสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไทยขั้นต่ำ 6,000 ล้านบาทต่อปี

“โครงการดังกล่าวทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้มากขึ้น เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)“ นายวีรศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีโครงการปรับปรุงหน่วยกลั่นสุญญากาศที่ 2 (HVU-2 ) ในเดือน เม.ย.2557 นี้ ใช้เงินลงทุน 3,400 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนการลงทุน 1,333 ล้านบาทต่อปี ซึ่งโครงการดังกล่าว จะเป็นการทำหน้าที่กลั่นแยกผลิตภัณฑ์บางประเภท เพื่อนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับหน่วยไฮโดรแครกเกอร์ เพื่อผลิตน้ำมันอากาศยานและน้ำมันดีเซล ส่วนราคาน้ำมันในปี 2557 นี้ คาดว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะเคลื่อนไหวที่ 102 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว ทั้งในจีน สหรัฐ สหภาพยุโรป