BUSINESS

เฟ้ลปส์ ดอด์จ ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่กว่า 1,000 ล้านบาท
POSTED ON 17/11/2564


 

เฟ้ลปส์ ดอด์จ เผยแผนกลยุทธ์ปี 2565 เปิดเกมรุกธุรกิจรอบด้าน เพิ่มงบลงทุน กว่า 1,000 ล้านบาท แตกไลน์การผลิตสายเคเบิลระดับแรงดันสูงพิเศษ (Extra High Voltage Cable) 500 กิโลโวลต์แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับการขยายตัวของระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ทั่วโลก พร้อมเดินหน้าลุยตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เพื่อเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไม่น้อยกว่า 20% และตั้งการเติบโตของรายได้และส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 30% เติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 2 เท่าได้ภายในปี 2569

 

นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัดเปิดเผยว่า บนเส้นทางกว่า 50 ปี ของการสานต่อภารกิจในการผลิตสายไฟฟ้าที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่หลากหลาย เฟ้ลปส์ ดอด์จในฐานะแบรนด์ชั้นนำที่ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกประเภทสายไฟฟ้าในตลาดผลิตภัณฑ์สายไฟฟ้าและเคเบิล ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตของรายได้โดยเฉลี่ยต่อปีที่เพิ่มขึ้นถึง 20% ติดต่อกันตั้งแต่พ.ศ. 2560 จนถึงปัจจุบัน

 

สายไฟฟ้าและเคเบิลของ เฟ้ลปส์ ดอด์จ ได้รับการพัฒนาให้รองรับการใช้งานทุกความต้องการ ตั้งแต่ระดับแรงดันต่ำ แรงดันปานกลาง แรงดันสูง และแรงดันสูงพิเศษ เพื่อตอบสนองในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรม Building and Construction – สายไฟที่ใช้ในงานอาคารสูง อาคารสาธารณะ อาคารขนาดใหญ่พิเศษ; กลุ่ม Utilities and Infrastructure – สายไฟที่ใช้ในงานสาธารณูปโภค โรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้า การส่งจ่ายกำลังไฟบนดินและใต้ดิน; กลุ่ม Industrial, Oil & Gas, Petrochemical – สายไฟที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป อุตสาหกรรมปิโตรเคมี วัสดุพอลิเมอร์ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ; กลุ่ม Mass Rapid and Transportation – สายไฟฟ้าที่ใช้ในระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า BTS, MRT, Airport Rail Link และรถไฟความเร็วสูง; และกลุ่ม Renewable Energy – สายไฟฟ้าและสายเคเบิลสำหรับรองรับการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด

 

จากการเติบโตที่มีมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงได้กำหนดกลยุทธ์สานต่อกับพันธกิจหลักในการส่งมอบสายไฟฟ้าและเคเบิลคุณภาพสูงเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังตลาดใหม่ ๆ ซึ่งเป้าหมายหลักยังคงเป็นประเทศที่มีการขยายภาคสาธารณูปโภคและโครงการขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยคาดการณ์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า กลุ่มเอเชียแปซิฟิกจะมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดโดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 7% ต่อปี

 

เพื่อตอกย้ำการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทจึงตัดสินใจเพิ่มไลน์การผลิตสายไฟฟ้าชนิดพิเศษและเสริมศักยภาพในการผลิต ด้วยงบลงทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนจำนวน 400 ล้านบาท

 

เพื่อยกระดับสายการผลิต Underground Cable สูงสุดถึง 500 กิโลโวลต์ ซึ่งมีจุดเด่นในการใช้เทคโนโลยีการหุ้มฉนวน XLPE ซึ่งเฟ้ลปส์ ดอด์จได้นำเข้าเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลกอย่าง Nokia Maillefer จาก ประเทศฟินแลนด์ เข้ามาใช้ในระบบควบคุมกระบวนการผลิต ซึ่งมีความละเอียดและแม่นยำสูงแบบ Real-Time เพื่อความปลอดภัยสูงสุด พร้อมห้องทดสอบแรงดันฟ้าผ่าสูงสุดถึง 2000 กิโลโวลต์ และอีก 600 ล้านบาทเพื่อสร้างการเติบโต เพิ่มศักยภาพในการผลิต ตอบสนองความต้องการการใช้พลังงานไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตสายเคเบิลแรงดันสูงพิเศษ 500 กิโลโวลต์ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป

 

“เราเล็งเห็นทิศทางในอนาคตของความต้องการใช้งานสายเคเบิลชนิดแรงดันสูงพิเศษนี้ ทั้งในประเทศ และที่มากกว่านั้นคือ “ตลาดโลก” จึงตัดสินใจศึกษาและวางแผนงานเพื่อขยายไลน์ผลิตนี้มารองรับ ซึ่งการเพิ่มไลน์การผลิตครั้งนี้ทำให้กำลังการผลิตสายเคเบิลแรงสูงและแรงสูงพิเศษที่มีอยู่ประมาณ 80,000 เมตรต่อเดือน เพิ่มขึ้นได้อีกกว่า 50% สามารถรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ในอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยเฟ้ลปส์ ดอด์จจะเป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถผลิตสายเคเบิลแรงดันสูงพิเศษนี้ได้” นายกิตติศักดิ์กล่าว

 

ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและเคเบิลในประเทศไทยอยู่ที่ราว 55,000 ล้านบาท โดยเฟ้ลปส์ ดอด์จ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักของธุรกิจแบ่งเป็นรายได้จากในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% โดยรายได้ประมาณ 50% มาจากภาคโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ ครอบคลุมกลุ่มโรงผลิตไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โรงงานทั่วไป และอาคารสูง และอีก 50% ที่เหลือมาจากผู้แทนจำหน่ายทั้งที่เป็นโมเดิร์นเทรดและร้านจำหน่ายสายไฟฟ้าทั่วไป

ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ประมาณ 30% และยืนส่วนแบ่งการตลาดไว้ไม่น้อยกว่า 20% โดยการดำเนินงาน ของบริษัทในปี 2564 ช่วงที่ผ่านมา สิ้นสุดไตรมาส 3/2564 (9 เดือน) บริษัทมีรายได้ 10,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดรายได้ 7,019 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศควบคู่กัน

 

“ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ แสดงให้เห็นถึง ความเข้าใจตลาดและแนวโน้มการเติบโตของตลาดสายไฟฟ้าทุกประเภทอย่างแท้จริง” นายกิตติศักดิ์ กล่าวและเสริมว่า “ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และการขนส่งสาธารณะในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของประชากรโลก ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะเข้ามาทดแทนการใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ เป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสายไฟฟ้าและเคเบิลในอนาคต”